จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ไทรน้อยได้รับแจ้งมีหญิงเสียชีวิตภายในห้องเช่าตึกส้มปลูกติดกันจำนวน 70 ห้อง สูง 3 ชั้น เลขที่ 44/ 28 ตำบลไทรใหญ่อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี บริเวณชั้น1 ภายในห้องนอนพบนางสาวดรุณี แก้วกระบิน อายุ 35 ปี นอนคว่ำหน้าจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่บนที่นอนโดยมีผ้าห่มคลุมร่างไว้ สภาพศพถูกมีดปาดบริเวณลำคอด้านขวาเป็นแผลลึก จากการตรวจสอบภายในห้องไม่มีร่องรอยการต่อสู้

จากการสอบถามนางสมจิตร แก้วกระบิน แม่ผู้เสียชีวิตเล่าให้ฟังว่าลูกสาวของตนมีลูกผู้หญิง 1 คน ชื่อน้องแพรว อายุ 17 ปี มาอาศัยอยู่กับตนช่วงปิดเทอม ลูกสาวตนจึงพักอาศัยอยู่ที่ตึกนี้เพียงคนเดียว และส่งเงินมาให้เพื่อเป็นค่าดูแลน้องแพรว วันที่เกิดเหตุเพื่อนลูกสาวโทรมาหาน้องแพรวว่าแม่เป็นอะไรไม่รู้มีเลือดออกเลอะที่นอน น้องแพรวจึงเข้ามาบอกตน ตนจึงรีบมาในที่เกิดเหตุ จนทราบว่าลูกสาวโดนฆ่าตาย ตอนนี้รู้สึกเสียใจมาก เพราะปกติลูกสาวจะมาหาตนที่บ้านทุกอาทิตย์แต่อาทิตย์นี้ลูกไม่มา และมาทราบว่าเกิดเหตุแบบนี้ขึ้นกับลูก ซึ่งเพื่อนลูกสาวบอกกับตนว่าคนที่ฆ่าน้องน่าจะเป็นเพื่อนสนิทเป็นสาวประเภท 2 จากที่ดูจากกล้องวงจรปิด ซึ่งเพื่อนลูกสาวคนนี้เคยเข้ามาหาตนที่บ้านและเคยเห็นหน้า แต่เขาก็ดูเหมือนไม่ใข่คนโหดร้ายอะไร ลักษณะรูปร่างเหมือนผู้หญิง มีหน้าอกและตัวสูงมาก

ล่าสุดเมื่อช่วงหัวค่ำที่ผ่านมาทางพ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี รรท.ผกก.สภ.ไทรน้อย พ.ต.ท.อดิสร บุญสนอง รอง ผกก.สส. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.ไทรน้อย ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายอมรเทพ หรือ น๊อต สว่างดาว อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 187/1หมู่ 3 ต.ลาดบัวหลวง อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นสาวประเภท 2 ผู้ที่ลงมือก่อเหตุใช้อาวุธมีดฆ่าปาดคอนางสาวดรุณี แก้วกระบิน ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทจนเสียชีวิตภายในห้องพักแล้วหลบหนีไปพร้อมด้วยรถจยย.ของผู้เสียชีวิต ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังเฝ้าติดตามจนพบว่ากล้องวงจรปิดในปั๊มแห่งหนึ่งจับภาพนายน๊อต มือมีดสวมเสื้อยืดคอกลมสีขาว ใส่หมวกลายพราง สวมกางเกงขายาว ใส่รองเท้าแตะ เป็นคนขับพร้อมด้วยเพื่อนชื่อว่านายเป้ สวมเสื้อยืดสีดำกางเกงขายาว สวมรองเท้าผ้าใบ เป็นคนซ้อน ได้ขับรถจยย.ไม่ทราบรุ่นสีน้ำเงินเข้าไปเติมน้ำมันภายในปั๊มแห่งหนึ่ง โดยรถจยย.ที่นายน๊อตขับมาเติมน้ำมันไม่ใช่รถของผู้เสียชีวิตที่ขับออกมาจากบ้านของผู้ตาย ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวนายน๊อตพร้อมด้วยนายเป้ได้ที่จ.ลพบุรี โดยเบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหานายน็อตว่า ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ส่วนนายเป้กันไว้เป็นพยาน ก่อนจะนำตัวส่งพนักงานงานสอบสวนสภ.ไทรน้อย และจะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 ต.ค.64 ที่ สภ.ไทรน้อย พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช. ภ.1 พล.ต.ต.ไพศล วศ์วัรงคล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลั รอผบก. รรท.ผกก.ไทรน้อย พ.ต.ท. อดิสร บุญสนอง รองผกก.สส.สภ.ไทรน้อย พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัวนายนอต สาวประเภทสอง พร้อมของกลาง คือรถจยย.ผู้เสียชีวิต โทรศัพท์มือถือ ทรัพย์สินบางส่วนของผู้ตาย โดยผู้ต้องหาสารภาพว่าคืนเกิดเหตุมาหาผู้ตายและพักอยู่ที่ห้อง ช่วงกลางดึกลุกมาเข้าห้องน้ำเห็นผู้ตายนอนหลับสนิทโดยใส่สร้อยคอหนัก 1บาท แหวนทองหนัก 1 สลึง จึงเกิดความโลภใช้มีดพกที่พกติดตัวเป็นประจำเชือดคอเพื่อนสนิทจนเสียชีวิตคาที่นอนก่อนจะเอาทรัพย์สินผู้ตายพร้อมรถจยย.หลบหนีไปจนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ในเวลาต่อมา

พันตำรวจเอกโชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี รักษาราชการแทนผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรไทรน้อย เปิดเผยว่าหลังจากที่ตำรวจจับกุมตัวนายอมรเทพ หรือน็อต สว่างดาว ผู้ต้องหาซึ่งเป็นสาวประเภทสอง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำรับสารภาพว่า วันเกิดเหตุ 16 ตุลาคม 2564 เวลาประมาณ 4 ทุ่มได้ไปหาผู้ตายที่ห้องพักและช่วงเวลาตี 2 ของเช้ามืดวันที่ 17 ตุลาคม เกิดความรู้สึกอยากได้ทรัพย์สินของผู้ตายจึงใช้มีดที่พกมาเป็นอาวุธลงมือฆ่าผู้ตายและเอาสร้อยคอทองคำพร้อมกับทรัพย์สินอื่นๆหลบหนีไปโดยใช้รถจักรยานยนต์ของผู้ตายจากนั้นได้นำสร้อยคอทองคำและแหวนของผู้ตายไปขายได้เงินมาจำนวนหนึ่งแล้วนำไปซื้อแหวน 1 วง และเหลือเงินบางส่วนเพื่อใช้จ่าย ระหว่างหลบหนี

โดยแรงจูงใจในการก่อเหตุผู้ต้องหาระบุว่าได้ไปติดพันผู้ชายจึงต้องการได้ทรัพย์สิน ส่วนรถจักรยานยนต์อยากได้เพื่อจะนำไปใช้ขับขี่ไปหาผู้ชายที่ตนเองติดพันอยู่ ซึ่งก่อนหน้านี้ยังอ้างกับนายธิติพันธ์ว่าจะซื้อรถใหม่ 1 คัน พร้อมกับยอมรับว่าก่อนหน้านี้เคยก่อเหตุเกี่ยวกับประทุษร้ายเกี่ยวกับทรัพย์สินมาแล้วหลายคดีและยังมีคดีเกี่ยวข้องกับยาเสพติดด้วย

เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ส่วนจะมีการนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณา เพราะเกรงจะถูกเพื่อนๆผู้ตายแะชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์

พล.ต.ท. จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจับคนร้ายได้ไม่เกิน 24 ชม. สามารถจับกุมได้อย่างรวดเร็ว คนร้ายสารภาพว่าเอาสร้อยคอไปขาย และของบางส่วนก็แยกขายไป หลังจากนั้นผู้ต้องหาหลบหนีไปที่ลพบุรีโดยใช้รถจยย.ของผู้เสียชีวิตในการเดินทาง ออกเวลาประมาณ 3-4ทุ่ม ผู้ต้องหารับสารภาพว่าต้องการทรัพย์ และอยากได้เงิน เพราะผู้ต้องหาไม่มีอาชีพและว่างงาน ร่วมกับขายยาเสพติดแบบรายย่อย ซึ่งทั้งสองเคยเป็นเพื่อนรักกันก็คงจะต้องให้รับโทษต่อไป ซึ่งผู้ต้องหาเคยติดคุกมาเเล้ว4ปีที่จังหวัดอยุธยา พึ่งพ้นโทษออกมาเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ตอนก่อเหตุผู้เสียชีวิตนอนอยู่ ผู้ต้องหาได้เอามือปิดปากและเอามีดปาดคอตรงเส้นเลือดใหญ่ก่อนที่จะหนีออกมาพร้อมทรัพย์สินผู้ตาย