จากกรณีกลุ่มวัยรุ่นนับสิบยกพวกรุมทำร้ายคู่อริหน้าอพาร์ตเมนต์ เจ็บสาหัส 3 คน ล่าสุดทีมข่าวช่อง 3 ลงพื้นจุดเกิดเหตุภายในซอยลาดพร้าว 132 ที่อพาร์ตเมนต์ดังกล่าวได้พูดนายสมรักษ์ พุ่งดอกไม้ เจ้าของหอพัก อยู่ในเหตุการณ์ เผยว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 15 ตุลาคม 1564 ระหว่างที่ตนกำลังนั่งทำงานอยู่ได้ยินเสียงคนโวยวายหน้าอพาร์ตเมนต์จึงรีบวิ่งออกมาดู พบกลุ่มวัยรุ่นทะเลาะกันอยู่หน้าอพาร์ตเมนต์ และทำข้าวของเสียหายกระจกแตก รถล้มระเนระนาด ตนจึงรีบวิ่งไปจับผู้ก่อเหตุได้หนึ่งราย

และเนื่องจากอพาร์ตเมนต์ได้รับความเสียหายต้องการหาคนรับผิดชอบ ระหว่างที่ตนกำลังทำความสะอาด มีคู่อริลงมาจากอพาร์ตเมนท์พอดี จึงมีการชกต่อยกัน ตนพยายามห้ามไว้ สักพักมีคนมารับตัวผู้ก่อเหตุกลับไป ผ่านไปไม่ถึง 10 นาที กลุ่มผู้ก่อเหตุได้ยกพวกกลับมารุ่มทำร้ายคู่อริที่อยู่บริเวณหน้าอพาร์ทเมนต์ของตนอีกครั้งหนึ่งและเหตุการณ์ก็เป็นไปตามคลิป

มารู้ภายหลังว่า ผู้ก่อเหตุพักอยู่ที่อพาร์ตเมนท์ของตนและได้มีเรื่องมีราวกับคนในอพาร์ตเมนท์เดียวกัน แต่ไม่ได้นำรถไปด้วย ตนจึงทำการล๊อคกุญแจคล้องรถมอเตอร์ไซค์ ไว้เป็นหลักประกัน ต่อมาเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2564 เวลาประมาณ 13.00 น. แฟนของผู้ก่อเหตุได้เข้ามาเอารถที่อพาร์ตเมนท์และได้ยกพวกมาด้วยตนจึงรีบออกไปดูและโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวแฟนของผู้ก่อเหตุพร้อมรถมอเตอร์ไซค์ไปที่โรงพักเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ขณะที่พลตำรวจตรีพรชัย ขจรกลิ่น ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 เปิดเผยว่า เมื่อคืนนี้ตำรวจชุดสืบสวน สน.ลาดพร้าว ได้เชิญตัววัยรุ่นจำนวน 2 คน ซึ่งปรากฎในภาพวงจรปิด ที่รุมทำร้ายร่่างกาย นายดี นายนาวาวี และนายซัน จนได้รับบาดเจ็บ

โดยเบื้องต้นทั้ง 2 คนให้การรับสารภาพว่า ร่วมกันทำร้ายผู้บาดเจ็บจริง ส่วนที่ก่อเหตุเพราะถูกเพื่อนชักชวน มีรายงานว่า 2 วัยรุ่นที่ตำรวจนำมาสอบปากคำนั้น ตำรวจได้แกะรอยจากกล้องวงจรปิดจนทำให้ทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นใครและสามารถตามสืบสวนจนสามารถควบคุมตัวมาสอบปากคำได้ โดยหนึ่งใน 2 วัยรุ่นที่ควบคุมตัวมาได้ เป็นเยาวชนอายุ ต่ำกว่า 18 ปี

ล่าสุด พล.ต.ต.พรชัย  เปิดเผยความคืบหน้าในการติดตามตัวผู้ก่อเหตุทะเลาะวิวาทและทำร้ายร่างกายกัน เหตุเกิดหน้าอะพาร์ตเมนต์ในซอยลาดพร้าว 132 ว่า ล่าสุดศาลได้อนุมัติออกหมายจับผู้ก่อเหตุแล้ว รวม 11 หมายจับ โดยสามารถจับกุมตัวได้แล้ว 2 คนเมื่อคืนนี้ เบื้องต้นได้ดำเนินคดีใน 3 ข้อหา คือ ความผิดฐานร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ความผิดฐานพกพาอาวุธ และความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งขณะนี้ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวอีก 9 คนที่เหลือมาดำเนินคดีโดยเร็ว