ช่วงคืนวันที่ 17 ต.ค. เวลาประมาณ 23.00 น. มีชายหญิงคู่หนึ่ง ขับรถกระบะเข้ามาในพื้นที่บ้านคลองท่อม ต.คลองเคียน อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา นำเด็กชายอายุ 15 ปี เด็กหญิงอายุ 5 ปี และเด็กชายอายุ 2 ปี รวมทั้งหมด 3 คน พร้อมด้วยเสื้อผ้าข้าวของส่วนตัวจำนวนหนึ่ง มาปล่อยทิ้งไว้บนถนนในหมู่บ้าน โดยคนเป็นแม่แท้ๆ เอาลูกมาปล่อย หวังจะให้อดีตสามีและญาติๆของอดีตสามี เลี้ยงดูเด็กๆ และก่อนหน้านี้ แม่เด็กมีปัญหาโต้เถียงกับฝ่ายอดีตสามีที่ไม่ยอมรับเด็กไปเลี้ยง เนื่องจากในพื้นที่บ้านคลองท่อม ยังมีปัญหาการระบาดของโควิด-19 และญาติอดีตสามีบอกว่า เลี้ยงไม่ไหว เพราะมีลูกหลานรวมกว่า 10 คนแล้ว แต่แม่เด็กก็ยังยืนยันให้ฝ่ายอดีตสามีเลี้ยงลูก และพาลูกๆมาปล่อยทิ้งไว้ ก่อนจะขับรถหนีไป โดยไม่สนใจเสียงร้องไห้ของเด็กๆ

พอเรื่องเป็นแบบนี้ นายก้อเดช ช่อแตง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 เลยต้องโทรแจ้ง 191 ให้ช่วยสกัดจับรถกระบะคันดังกล่าว และให้อสม.หมู่บ้าน ช่วยหาที่นอนให้เด็กในเต็นท์ ใกล้บ้านญาติชั่วคราว เนื่องจากมาตรการการเข้าพื้นที่ จะต้องมีผลตรวจโควิด-19 ก่อน และล่าสุดนำตัวเด็กทั้ง 3 คน พร้อมกับพ่อของเด็ก และลูกสาวอีกคนที่อายุ 10 ขวบ ที่เพิ่งเดินทางมาจากจังหวัดระนอง ไปกักตัวที่สถานกักตัวของรัฐในตำบลคลองเคียนแล้ว

เมื่อวานนี้ (18 ต.ค.) นายศิวัชฐ์ ระวังกุล นายอำเภอตะกั่วทุ่ง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพังงา อบต.คลองเคียน และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ไปพบเด็กๆกับพ่อที่กักตัวอยู่ โดยได้สอบถามปัญหาครอบครัวที่เกิดขึ้น นายสมปอง พ่อเด็กเล่าว่า อยู่กินกับแม่ของเด็กๆ จนมีลูกด้วยกัน 4 คน และเลิกรากันไปประมาณปีเศษ โดยอดีตภรรยามีสามีใหม่ นายสมปองจึงนำลูกสาวคนรอง มาอาศัยอยู่กับพี่สาวของตัวเองที่บ้านคลองท่อม จังหวัดพังงา ส่วนลูกอีก 3 คน อยู่กับอดีตภรรยา จนกระทั่งมาเกิดปัญหากับอดีตภรรยา ที่ต้องการให้นายสมปองนำลูกทั้งหมดไปเลี้ยง เพราะอดีตภรรยามีสามีใหม่แล้ว แต่ทางฝ่ายนายสมปองบอกไปว่า เลี้ยงดูไม่ไหว เพราะตอนนี้ก็ต้องอาศัยพี่สาวอยู่ ทางครอบครัวพี่สาวก็มีลูกหลานแล้วถึง 10 คน ซึ่งนายสมปองก็ไม่คิดว่า แม่เด็กจะเอาลูกมาทิ้งแบบนี้ แต่นายสมปองบอกว่า หลังจากนี้ก็จะเลี้ยงดูลูกทุกคน เพราะเป็นลูกของตัวเอง

นายศิวัชฐ์ ระวังกุล นายอำเภอตะกั่วทุ่ง เปิดเผยว่า ตรวจสอบข้อมูลพื้นฐาน พบว่า พ่อเด็กและลูก 3 คน ไม่มีสถานะทางทะเบียน มีแค่ลูกชายคนโตเท่านั้นที่มีบัตรประชาชน ขณะนี้ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาดูแลช่วยเหลือ โดยเบื้องต้นให้กักตัวที่สถานกักกันโรคของรัฐก่อน 14 วัน จากนั้น จะมีหน่วยงานต่างๆ เข้าไปดูแลความเป็นอยู่พื้นฐานของเด็กๆก่อน ว่าสภาพบ้านเรือนที่อยู่เป็นอย่างไร พ่อเด็กจะดูแลได้ไหม จากนั้นจะหาวิธีการช่วยเหลือดูแลที่เหมาะสมต่อไป

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/kVo2JqHKuso