"ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา" ระดับน้ำเพิ่มต่อเนื่อง ชาวบ้านคาดท่วมขังอีกกว่า 2 เดือน

สังคม

"ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา" ระดับน้ำเพิ่มต่อเนื่อง ชาวบ้านคาดท่วมขังอีกกว่า 2 เดือน

โดย pattraporn_a

3 ต.ค. 2564

48 views

พื้นที่ริมน้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่จังหวัดชัยนาท, อ่างทอง, สิงห์บุรี และอยุธยา น้ำยังท่วมสูง ชาวบ้านบางบาล เรียกร้องให้มีการระบายน้ำช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน หลังน้ำท่วมมาเกือบ 1 เดือน และมีแนวโน้มยังท่วมขังอีกนาน วอนรัฐบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสม


(3 ต.ค.) สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ยังน้ำท่วมสูง ทั้งที่ อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ต่อเนื่องมาในพื้นที่ อ.บางบาล อ.เสนา และ อ.ผักไห่ บ้านเรือนริมแม่น้ำต่างเป็นห่วงว่าอาจจะอยู่ในภาวะน้ำท่วมขังอีกไม่ต่ำกว่า 2 เดือน เพราะระดับน้ำยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จึงเรียกร้องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยระบายน้ำลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นด้วย




ชาวบ้านทางช้าง ม.5 ตำบลทางช้าง อ.บางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประสบปัญหาน้ำท่วมมาเกือบ 1 เดือนแล้ว นับจากเขื่อนเจ้าพระยามีการะบายน้ำ และพื้นที่ริมแม่น้ำน้อย ระดับน้ำสูงขึ้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน เสียหายอย่างหนัก น้ำขึ้นรวดเร็ว และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนน้ำเกือบถึงชั้น 2 ของบ้าน ทำให้ประชาชนเดือดร้อน ขาดถุงยังชีพที่มาไม่ทั่วถึง และคาดว่าต้องอยู่ในน้ำแบบนี้ไม่อีกไม่ต่ำกว่า 2 เดือน จากระดับน้ำที่สูงเกือบเท่าปี 2554


ที่บ้านเก่าแก่อายุ 64 ปี เป็นทรงโบราณยกสูง แต่น้ำท่วมเข้าชั้น 2 เจ้าของบ้านต้องยกเตียงต่อเป็นชั้น 3 และยังเป็นห่วงหากน้ำเพิ่มสูงขึ้น จะอยู่ภายในบ้านไม่ได้ ซึ่งน้ำปีนี้มาเร็วทำให้พืชผลเกษตร และสัตว์เลี้ยง รวมถึงเสื้อผ้ามือสอง ที่เก็บไว้ขายสร้างรายได้ เสียหายทั้งหมด ถือเป็นการซ้ำเติมชีวิต หลังจากต้องตกงานเพราะสถานการณ์โควิด-19 จึงอยากเรียกร้องเพื่อขอให้มีการระบายน้ำ ช่วยลดความเดือดร้อนประชาชนที่ต้องอยู๋ในภาวะน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะพื้นที่ทุ่งบางบาล ที่กลายเป็นทุ่งรับน้ำให้คนกรุงเทพ


สำหรับพื้นที่อำเภอบางบาล ต่อเนื่องไปถึงอำเภอเสนา อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ยังมีน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร ระดับน้ำยังเพิ่มสูงขึ้น จนทำให้ผู้ประสบภัยเรียกร้องให้มีการะบายน้ำ .ซึ่งพบว่าพื้นทีแก้มลิงอีกฝั่งของถนน มีการระบายน้ำลงไปบ้างแล้ว แต่ยังไม่มาก บางจุดมีการสร้างคันดินป้องกันน้ำท่วมในเขตเศรษฐกิจของอำเภอบางบาล ในขณะดียวกัน มีวัดจำนวนมากที่เสียหายจากน้ำท่วม




วันนี้ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และ นายวีระชัย นาคมาก ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา คณะสงฆ์จากจังหวัดลพบุรีและพระนครศรีอยุธยา ลงเรือมอบสิ่งของช่วยเหลือช่วยเหลือชาวบ้านย่านวัดอินทาราม อำเภอบางบาล โดยได้กำชับทุกฝ่ายฃเตรียมพร้อมมาตรการเฝ้าระวังพายุลูกใหม่ ที่คาดว่าจะเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยใน สัปดาห์หน้า


สำหรับพื้นที่อำเภอบางบาล เป็นรอยต่อรับน้ำมาจากอำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง ทั้งจากแม่น้ำเจ้าพระยา และคลองโผงเผง ซึ่งวันนี้นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวดีอีเอส ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพให้ผู้ประสบภัย ตามนโยบายของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่ให้รัฐมนตรีลงพื้นที่ โดยที่อำเภอป่าโมก ระดับน้ำท่วมสูงเกือบเท่าปี 2554 โดยเฉพาะริมน้ำเจ้าพระยาน้ำเกือบถึง ชั้น 2 ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง และ ส.ส.อ่างทอง ต่างคาดว่า หากไม่มีน้ำเหนือมาเติมอีก อาจต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 1 เดือน ดังนั้นจึงต้องหาทางระบายน้ำด้วย


นายชัยวุฒิ ยังลงพื้นที่ ตำบลน้ำตาล อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี เพื่อเยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วม ซึ่งเป็นอีกพื้นที่หนึ่ง ที่ประสบปัญหาน้ำท่วม เพราะอยู่ติดริมน้ำเจ้าพระยา ซึ่งประชาชนในพื้นที่ยังหวาดผวากับน้ำท่วมเมื่อปี 2554 เช่นเดียวกับพื้นที่ท้ายน้ำที่ต้องอยู่กับน้ำไม่ต่ำกว่า 2-3 เดือน


สำหรับพื้นที่คลองโผงเผง พบว่าระดับน้ำสูง มีน้ำท่วมริมน้ำสูงกว่า 2 เมตร แต่บางพื้นที่น้ำไม่ท่วม เพราะเขื่อนกั้นน้ำสร้างแล้วเสร็จแล้ว และมีคันดินมากั้นเสริม ปีนี้จึงยังไม่ท่วม ซึ่งโครงการเขื่อนกั้นนำ้มีการผลักดัน หลังปี 2554 แต่เพิ่งแล้วเสร็จเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา

คุณอาจสนใจ

Related News