มวลน้ำก้อนใหญ่ จากลำน้ำชี กำลังเคลื่อนเข้าเมืองขอนแก่น ผู้ว่าฯ สั่งอพยพคนจากพื้นที่เสี่ยง หลังพบมีน้ำล้นประตูระบายน้ำในคลองบางแห่งแล้ว

(3 ต.ค.) มวลน้ำจากอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร ที่คันดินพัง จนน้ำไหลเข้าท่วมหลายอำเภอในจังหวัดนครราชสีมา ก่อนจะไหลลงแม่น้ำมูล และมีน้ำบางส่วนไหลล้นท่วมถนนมิตรภาพ ช่วงอำเภอพิมาย วันนี้ระดับน้ำที่นั่นลดลงต่ำกว่าถนนแล้ว

ขณะที่มวลน้ำอีกสายหนึ่ง เป็นน้ำที่ท่วมในจังหวัดชัยภูมิ ที่เริ่มท่วมตั้งแต่ 7 วันที่แล้ว จะไหลมาตามลำน้ำชี ทำให้พื้นที่ลุ่มน้ำชีทั้งหมดในจังหวัดชัยภูมิ และในจังหวัดขอนแก่น ได้รับผลกระทบ ตั้งแต่อำเภอแวงน้อย, แวงใหญ่, โคกโพธิ์ชัย, ชนบท, มัญจาคีรี, บ้านไผ่, บ้านแฮด กระทั่งล่าสุด มวลน้ำบางส่วน ได้มาถึงเขตอำเภอเมือง ขอนแก่นแล้ว

เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา น้ำชีช่วงที่ไหลผ่านเขตเทศบาลเมืองเมืองเก่า อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ได้ไหลลอดประตูระบายน้ำของคลองสาขา ที่บ้านดอนบม และบางจุดน้ำจากลำน้ำชี ได้ทะลักข้ามประตูระบายน้ำ ซึ่งปกติเป็นประตูที่ใช้สำหรับระบายน้ำออกจากชุมชน และจากเมืองขอนแก่นลงสู่แม่น้ำชี แต่ตอนนี้น้ำชีมาแรง และไหลเชี่ยวมาก ทำให้แม้จะปิดประตูระบายน้ำแล้ว ก็ยังทะลักท่วม แต่พื้นที่ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่ยังเป็นพื้นที่นาข้าว

ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดขอนแก่น รวมทั้งเทศบาลเมืองเมืองเก่า และชุมชนบ้านดอนบม ได้ระดมกรอกกระสอบทรายกว่า 9 พันถุง เพื่อให้ชาวบ้านนำไปวางป้องกันบ้านเรือนของตัวเอง และส่วนหนึ่งจะนำไปวางปิดปากประตูระบายน้ำ เพื่อป้องกันน้ำซึมเข้าพื้นที่อยู่อาศัย และพื้นที่การเกษตรที่ยังไม่ถูกน้ำท่วม

ล่าสุด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น สั่งให้องค์กรปกครองท้องถิ่นในพื้นที่เสี่ยง เร่งสำรวจผู้อาศัยในชุมชน หรือบ้านสวนในพื้นที่การเกษตร ที่จำเป็นต้องอพยพออกมาเพื่อความปลอดภัย

ขณะนี้มวลน้ำชีที่มาจากอำเภอแวงน้อย, แวงใหญ่, ชนบท กระทั่งมาถึงเภอมัญจาคีรี ได้หลากเข้าสู่อ่างเก็บน้ำแก่งละว้า ที่อำเภอบ้านไผ่ การเคลื่อนตัวของน้ำก้อนใหญ่เป็นทางยาว และไหลเชี่ยว

อำเภอบ้านไผ่ เมื่อปี 2562 ที่ได้รับผลกระทบจากพายุโพดุล จะเป็นฝั่งเทศบาลเมืองบ้านไผ่ ที่เสียหายหนัก และน้ำทั้งหมดก็หลากลงอ่างเก็บน้ำแก่งละว้าด้วย ส่วนปีนี้ ฝั่งเทศบาลเมืองบ้านไผ่ ไม่กระทบ แต่ชุมชนริมฝั่งแก่งละว้า เช่นบ้านละว้า และบ้านชีกกค้อ ก็ยังได้รับผลกระทบเช่นเคย เป็นพื้นที่ลุ่มรับน้ำ ก่อนหลากลงสู่แม่น้ำชีอีกรอบ

แก่งละว้า เป็นพื้นที่มีความหลากหลายทางระบบนิเวศน์ และชีวภาพ จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำนอกเขตอนุรักษ์ ที่มีความสำคัญระดับชาติ หรือแรมซาร์ไซต์ อยู่ในเขตอำเภอบ้านไผ่ และบ้านแฮด รับน้ำได้ประมาณ 45 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยน้ำที่ล้นจากแก่งละว้า จะย้อนกลับลงสู่ลำน้ำชี มุ่งหน้าเข้าสู่เขตอำเภอเมืองขอนแก่น

ทั้งนี้ จังหวัดขอนแก่น ยังเผชิญความเสี่ยงอีกด้านคือฝั่งลำน้ำพอง ที่มีน้ำระบายจากเขื่อนอุบลรัตน์ ซึ่งจะไปบรรจบลำน้ำชี ที่รอยต่อจังหวัดมหาสารคาม

และวันนี้เป็นวันแรก ที่เขื่อนอุบลรัตน์ เปิดสปิลเวย์เพื่อระบายน้ำจากเขื่อน หลังจากมีน้ำจากตอนเหนือของเขื่อน ทั้งฝั่งจังหวัดชัยภูมิ, เลย และหนองบัวลำภู ไหลเข้าตลอด จนเหลือพื้นที่รับน้ำตอนนี้ 442 ล้านลูกบาศก์เมตร

ซึ่งการระบายน้ำผ่านสปิลเวย์ วันนี้ 3 ล้านลูกบาศก์เมตร บวกกับการะบายน้ำผ่านเครื่องกำเนิดไฟฟ้า 3 เครื่อง รวม 15 ล้านลูกบาศก์เมตร เท่ากับว่า วันนี้ระบายน้ำออกจากเขื่อนอุบลรัตน์ทั้งหมด 18 ล้าน ลูกบาศก์เมตร

นายพิพัทต์ คงสินทวีสุข ผู้อำนวยการโรงไฟฟ้า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระบุว่า คณะอนุกรรมการน้ำจังหวัดขอนแก่น มีมติให้เขื่อนฯระบายน้ำได้สูงสุด 35 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ให้เพิ่มขึ้นเป็นขั้นบันได ครั้งละ 3 ล้าน เพื่อไม่ให้กระทบต่อลำน้ำ ที่รับน้ำได้สูงสุด 35-40 ล้านลูกบาศก์เมตร เพราะหากมากกว่านี้จะล้นลำน้ำพอง จนกระทบพื้นที่การเกษตรได้

อย่างไรก็ตาม แม้การระบายน้ำ 18 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ยังไม่กระทบท้ายน้ำ แต่จะแจ้งเตือนอยู่เป็นระยะเพื่อให้ชาวบ้านเตรียมพร้อม

เขื่อนอุบลรัตน์ ขณะนี้มีน้ำสะสม 1,989 ล้านลูกบาศก์เมตรคิดเป็นร้อยละ 81 ของความจุอ่าง เหลือพื้นที่รับน้ำได้ 442 ล้านลูกบาศก์เมตร ชณะที่น้ำไหลเข้าช่วงนี้ประมาณ วันละ 106 ล้านลูกบาศก์เมตร