วันแรกของการเตือน 9 จังหวัดลุ่มเจ้าพระยา เฝ้าระวังน้ำท่วมสูงจากการเร่งระบายน้ำ ช่วง 1- 5 ตุลาคมนี้ โดยกรมชลประทานได้เพิ่มการระบายน้ำ เกือบทุกจุดบริเวณสถานีวัดระดับน้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา ตามที่กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ หรือ กอนช.ตั้งเป้าเร่งระบายน้ำให้แล้วเสร็จ และคาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 20 วัน ขณะวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือวสท.ชี้ชัด น้ำท่วมปีนี้ 64 ไม่รุนแรงเท่าวิกฤตน้ำท่วมใหญ่ปี 54

นายชวลิต จันทรรัตน์ นายกสมาคมวิศวกรที่ปรึกษาแห่งประเทศไทย ได้วิเคราะห์ถึงความเสี่ยง น้ำท่วมปีนี้ เปรียบเทียบข้อมูลกับปี 2554 ที่เกิดน้ำท่วมใหญ่ โดยดูจากปริมาณน้ำจาก 4 เขื่อนหลัก ปีนี้มีน้ำรวม 4,106 ล้าน ลบ.ม ส่วนปี 2554 มีปริมาณน้ำ 16,797 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งมากกว่า 4 เท่าของปีนี้

โดยปริมาณน้ำฝน ปีนี้มีฝนตกสะสม 253 มิลลิเมตรต่อวัน ในปี 2554 มีปริมาณฝนตกสะสม 400 มิลลิเมตรต่อวัน ซึ่งมากกว่า 1.5 เท่า ขณะที่พื้นที่เกษตรปีนี้ ถูกน้ำท่วม 595,000 ไร่ ขณะที่ปี 2554 มีพื้นทีน้ำท่วมทั้งสิ้นประมาณ 1,490,000 ไร่ มากกว่า 2.5 เท่า

ส่วนพายุฝนที่เข้าไทยหลังจากนี้ นายชวลิต กล่าวว่า แทบจะไม่น่ากังวล เพราะส่วนใหญ่จะอ่อนกำลังลงก่อน ห่วงแต่ปริมาณน้ำในเขื่อนยังมีน้ำน้อย ส่วนน้ำท่วมปีนี้ เป็นลักษณะปริมาณฝนตกสะสมจนน้ำหลากล้นตลิ่ง ซึ่งช่วงนี้พื้นที่ 9 จังหวัดท้ายเขื่อนต้องเฝ้าระวังต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 5 ตุลาคมนี้ ซึ่งคาดว่า หลังจากวันที่ 15 ตุลาคม เป็นต้นไป สถานการณ์น้ำท่วมจะเริ่มคลี่คลาย เนื่องจาก ปริมาณฝนเริ่มจะลดลง

มีภาพถ่ายดาวเทียมของสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ จิสดา เปรียบเทียบปริมาณน้ำ เมื่อวันที่ 3-5 ตุลาคม ปี 2554 และ 1 ตุลาคม 2564 หรือวันนี้ ซึ่งพบว่ามวลน้ำในพื้นที่เดียวกันมากน้อยต่างกันชัดเจน

โดยมีจุดสีเหลืองในภาพถ่ายจากดาวเทียม คือ ประตูระบายน้ำบางโฉมศรี ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของน้ำที่ทะลักเข้าทุ่ง พื้นที่ชั้นในทางพระนครศรีอยุธยา ถ้าดูพื้นที่จิสดา บันทึกไว้ วันที่ 1- 5 ตุลาคมปี 2554 น้ำได้ท่วมพื้นที่เป็นวงกว้างหลายอำเภอแล้ว ขณะที่ปีนี้ยังไม่เกิดภาพดังกล่าว