'พิยดา' เครียดนอนคุก พ่อแม่โวยถูกยึดเงินเตรียมประกัน 7 แสน ซัดทอดแฟนหนุ่มโต้กันวุ่น

สังคม

'พิยดา' เครียดนอนคุก พ่อแม่โวยถูกยึดเงินเตรียมประกัน 7 แสน ซัดทอดแฟนหนุ่มโต้กันวุ่น

โดย thichaphat_d

30 ก.ย. 2564

363 views

ตำรวจ สภ.นาหวาย อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ คุมตัวนางสาวพิยดา ผู้ต้องหาในคดีหลอกขายโทรศัพท์มือถือให้น้องก้อง วัย 14 ปี ส่งตัวฝากขังที่ทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ หลังจากมีการสอบสวนเพิ่มเติม โดยนอกจากข้อหาร่วมกันฉ้อโกงและข้อหานำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ล่าสุดพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาฟอกเงินเพิ่มเติมอีกหนึ่งข้อหาก่อนที่จะส่งตัวไปฝากขัง


นางสาวพิยดา ตอบคำถามกับผู้สื่อข่าวระหว่างถูกนำตัวไปขึ้นรถด้วยสีหน้าเคร่งเครียดและน้ำตาซึมว่ารู้สึกเสียใจที่ตกเป็นเครื่องมือ โดยถูกหลอกใช้จากครอบครัวของแฟนหนุ่มในการก่อเหตุกระทำความผิดหลอกขายโทรศัพท์มือถือจนมีผู้เสียหายจำนวนมาก ยืนยันตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็นใดๆ เกี่ยวกับการกระทำความผิดที่เกิดขึ้นเลย แต่ถูกแอบอ้างนำชื่อไปใช้ในการก่อเหตุและโยนความผิดมาให้รับคนเดียว


สำหรับกรณีของน้องก้อง เด็กชายนักเรียนชั้น ม.2 อายุ 14 ปีที่เสียชีวิตนั้น ตัวเองไม่ได้มีส่วนรู้เห็นและไม่ได้เป็นคนหลอกขายโทรศัพท์ให้ เมื่อเป็นคดีและมีชื่อตัวเองตกเป็นผู้ต้องหาแล้วก็รู้สึกเสียใจและขอโทษครอบครัวของผู้เสียหายด้วย


ขณะที่แม่เลี้ยงของพิยดา แสดงความไม่พอใจที่ถูกตำรวจบุกเข้าตรวจค้นห้องพัก และตรวจยึดอายัดทรัพย์สินไปตรวจสอบ โดยระบุว่า เงินสดประมาณ 700,000 บาท ที่เตรียมไว้ประกันตัวพิยดา พร้อมทั้งเอกสารและโทรศัพท์มือถือ ถูกเจ้าหน้าที่ยึดไปทั้งหมด ทำให้ไม่สามารถติดต่อใครได้เลย และหมดหนทางที่จะยื่นประกันตัวลูก


ซึ่งทางครอบครัวมั่นใจว่า พิยดาไม่ได้เป็นคนโกงผู้เสียหาย และเมื่อคืนที่ผ่านมา ได้พูดคุยกันหน้าห้องขัง ซึ่งพิยดายืนยันว่าไม่ได้เป็นคนทำ และซัดทอดว่า คนโกงผู้เสียหายจริงๆ แล้วเป็นฝ่ายครอบครัวแฟนหนุ่ม


ส่วนทรัพย์สินต่างๆ นั้นได้มาจากการขายเสื้อผ้าออนไลน์ จึงอยากให้ตำรวจตรวจสอบเส้นทางการเงินของครอบครัวแฟนหนุ่มของพิยดาอีกทางหนึ่งด้วย


ด้านทนายความ น.ส.พิยดา เผยว่า ผู้ต้องหาเครียด นอกจากถูกหมายจับคดีฉ้อโกง และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์แล้ว ล่าสุดยังถูกแจ้งข้อหาเพิ่มตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน ทำให้รู้สึกกังวลขึ้นมา กินข้าวไม่ค่อยได้


พันตำรวจเอก ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 เผยว่า แม้ผู้ต้องหาจะให้การปฏิเสธแต่ที่ผ่านมาพนักงานสอบสวน ร่วมกับ สอท.และสืบสวนภาค 5 ได้สืบสวนมาอย่างละเอียดรอบคอบ พยานหลักฐานที่ใช้ออกหมายจับมีความชัดเจนและเพียงพอจะดำเนินคดี


ส่วนการประกันตัวเป็นสิทธิของผู้ต้องหา แต่ผู้ต้องหามีการกระทำผิดในหลายพื้นที่จึงขึ้นอยู่กับ พนักงานสอบสวน หรือ ศาล จะพิจารณาให้ประกันตัวหรือไม่ ส่วนท้องที่อื่นจะมีการอายัดตัวหรือไม่อยู่ระหว่างตรวจสอบหมายจับเพิ่มเติม


โดยทราบว่ามีอีกประมาณ 4 คดีบางคดีทยอยออกหมายจับแล้ว บางคดีเริ่มมีการร้องทุกข์เพิ่มเติม ทั้งหมดมีพฤติการณ์ลักษณะเดียวกัน ซึ่งน.ส.พิยดา เคยถูกดีเอสไอจับกุมดำเนินคดีมาแล้ว โดยครั้งนั้นให้การอ้างว่าขายสินค้าออนไลน์ แต่รับสินค้าจากเพจอื่นมาขาย เมื่อรับเงินมาแล้ว เพจหลักไม่ส่งสินค้าให้


ด้านแฟนหนุ่มของพิยดา ให้สัมภาษณ์ว่า ยอมรับว่าเครียดมาก เพราะสังคมพิพากษาว่าเป็นคนผิด ถึงขนาดกินข้าวไม่ได้ นอนร้องไห้ ครอบครัวก็ได้รับผลกระทบไปด้วย ถูกมองว่า ร่วมกันโกงทั้งครอบครัว


ที่สำคัญคือ เสียใจที่ถูกพิยดาหลอก ถึงจะเป็นห่วงแค่ไหน ขอตัดใจเลิกกับพิยดา ไม่อยากทำให้ครอบครัวเดือดร้อน และอยากรู้ด้วยว่า ทำไมผลกระทบจึงมาตกในครอบครัวของตน ว่าเป็นคนโกง ทำไมครอบครัวของพิยดา ไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย 



"ก่อนหน้านี้ผมเคยโดนดำเนินคดีกับเขา เขาเคยให้สัญญากับผมว่าเขาจะไม่ทำอีก ผมให้โอกาสเขาไปแล้ว ถ้าทำอีกผมไม่ทนแล้วนะ ครั้งนั้นผมก็แย่เหมือนกัน รอบนี้ผมไม่เคยรู้มาก่อน รอบนี้แย่ หนักกว่าครั้งที่แล้วอีก"


ด้านแม่ของแฟนหนุ่มเผยว่า วันที่ตำรวจมาค้นบ้าน ของแบรนด์เนมที่มายึดไปเป็นของพิยดาทั้งหมด ที่นำมาฝากไว้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากนั้นตำรวจก็มาตรวจค้น พิยดาก็อ้างว่าตำรวจมาค้นเพราะเป็นคดีเก่า ตำรวจจะมาแกล้ง จะมายึดของไป จึงไม่ได้สงสัยอะไร เพราะพิยดา จะบอกเสมอว่ารายได้ ที่ได้มาส่วนใหญ่มาจากการขายเสื้อผ้าออนไลน์


และเมื่อปี 62 ครั้งที่เคยอยู่บ้านแถวจรัญฯ เคยถูกตำรวจมาตรวจค้นบ้านแล้วครั้งหนึ่งในอีกคดีหนึ่ง ตอนนั้นอายมากที่โดนตำรวจมาค้น จึงต้องย้ายบ้าน


ก่อนหน้านี้เคยสอนพิยดาว่า อย่าไปโกงใคร เงินได้มาก็ใช้ไม่ได้ พิยดาเป็นคน 2 บุคลิก บางครั้งร่าเริงและบางครั้งก็เงียบ


ด้านพ่อของแฟนหนุ่มพิยดา ระบุว่า ตอนนี้เครียดมาก คนในครอบครัวของตนไม่เกี่ยวข้องด้วย ไม่เช่นนั้นตำรวจคงออกหมายจับไปแล้ว ขณะนี้กำลังเร่งประสานกับปปง. เพื่อนำเอกสารหลักฐานไปยืนยันรายได้ และเงินในบัญชีหลักแสนบาท เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของคนในครอบครัว ย้ำอีกครั้งตัวเองไม่ผิด และลูกชายไม่มีส่วนรู้เห็นด้วยแน่นอน



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/s2IhYDYGYAQ

คุณอาจสนใจ

Related News