รองอธิบดีกรมชลฯ ยันอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรล่าง ไม่ได้แตก เร่งกั้นทางน้ำ คาด 3 วันควบคุมได้

สังคม

รองอธิบดีกรมชลฯ ยันอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรล่าง ไม่ได้แตก เร่งกั้นทางน้ำ คาด 3 วันควบคุมได้

โดย thichaphat_d

28 ก.ย. 2564

7 views

อิทธิพลพายุที่ปกคลุมอีสาน ทำให้มวลน้ำที่ไหลลงอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรล่าง อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา ซึ่งเกิดภาพ คันดินถล่ม มีน้ำไหลผ่านคันดินไหลหลากไปท้ายอ่างเก็บน้ำ อย่างรวดเร็ว ท่สมกลางความกังวลว่าจุดท้ายเขื่อนและทางน้ำไหลผ่าน จะได้รับความเดือดร้อน


เมื่อวานนี้ (27 ก.ย.) ตลอดทั้งวัน กรมชลประทานนำอุปกรณ์เครื่องจักรหนัก เข้าพื้นที่พยายามจะปิดรอยรั่วของคันดินที่กั้น จุดก่อสร้างประตูระบายน้ำ นายชูชาติ รักจิตร รองอธิบดีกรมชลประทาน ก็ลงพื้นที่มาดูแลการซ่อมแซมจุดนี้ โดยระบุว่า


เจ้าหน้าที่กำลังเร่งซ่อมแซมจุดน้ำที่รั่ว และไหลหลากลงไปท้ายเขื่อน เพื่อควบคุมทิศทางน้ำ โดยจะเริ่มสร้างทางเชื่อมและเคลียร์ ทำความสะอาด บานประตูระบายน้ำที่กำลังก่อสร้าง จากนั้นจะนำก้อนหินใหญ่ และถุงบิ๊กแบค กั้นทางน้ำไว้ เพื่อควบคุมทิศทางน้ำให้ไหลผ่านลงไปที่ประตูระบายน้ำ เพื่อควบคุมทิศทางน้ำให้ไหลลงลำน้ำเชียงไกรไหลลงไปตามลำน้ำ


จากนั้นต้องรอระยะเวลาพอน้ำเริ่มนิ่ง ระดับน้ำในอ่างกับน้ำใหม่ที่มาเติม เมื่อน้ำมาเติมลดน้อยลง จนสามารถ กลับสู่ภาวะระบายน้ำปกติ ก็จะเริ่มเปิดปิดประตูระบายน้ำ เก็บน้ำให้ชาวบ้านใช้ ทุกอย่างจะกลับสู่ภาวะปกติไม่เกิน 10 วัน หากไม่มีฝนตกลงมาเติม


ส่วนที่หลายคนวิพากษ์วิจารณ์ว่า จุดที่เกิดเหตุคือคันดินแตกรั่ว หรือเจ้าหน้าที่ตั้งใจเปิดทางระบายน้ำ รองอธิบดีกรมชลประทานยืนยันว่า ไม่ใช่การแตกหรือพังทลาย ซึ่งเราต้องการให้น้ำไหลมาทางนี้อยู่แล้วแต่เราเปิดช่องทางระบายน้ำขนาดเล็กเพื่อให้น้ำไหลแต่ด้วยมวลน้ำที่มีปริมาณมาก จึงทำให้ช่องน้ำที่เราทำไว้ขยายตัวขึ้น จึงมองภาพกว้างเป็นลักษณะคล้ายการแตกหรือพังทลายแต่ที่จริง คือการระบายน้ำ เพราะจุดนี้เป็นจุดก่อสร้างที่ควบคุมได้และเป็นจุดที่เราจะเก็บต่องาน


จึงขอให้ประชาชนไม่ต้องกังวล หากมองภาพแล้วอาจจะน่ากลัว แต่เป็นการวิธีการระบายน้ำที่เอ่อล้น อ่างเก็บน้ำ เพราะมีมวลน้ำจำนวนมากเกินกว่าที่จะรับได้จริง เนื่องจากมีปริมาณน้ำมาก ปกติอ่างนี้ รับน้ำได้ 27 ล.ลบ.ม. แต่วันที่26 กันยายนวันเดียว น้ำเข้าอ่าง 160 ล.ลบ.ม


ซึ่งเส้นทางการระบายน้ำนี้ จะทำให้มวลน้ำไหลผ่านไปลงท้ายอ่างเก็บน้ำ ไหลไปตามลำน้ำลำเชียงไกร จะส่งผลกระทบกับบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่การเกษตร ต.บัลก์ลัง ต.สำโรง ต.กำปัง อ.โนนไทย / ต.โคกสูง อ.เมืองนครราชสีมา และ ต.จันอัด และ ต.เมืองปราสาท อ.โนนสูง ผ่านเทศบาลตำบลโนนสูง


ซึ่งปริมาณน้ำทั้งหมดจะไหลลงสู่แม่น้ำมูลที่ ต.ดอนชมพู อ.พิมาย จ.นครราชสีมา จึงขอให้ประชาชนเข้าใจ ไม่ได้มีการตั้งใจระบายน้ำให้เกิดความเดือดร้อน แต่มวลน้ำมากก็ต้องระบาย และได้ประสานแจ้งและเคลื่อนย้ายประชาชนพื้นที่อันตรายอพยพออกนอกพื้นที่แล้ว



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/uzBQtoB4Ayw

คุณอาจสนใจ

Related News