สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดชัยภูมิ กระจายความเสียหายใน 10 อำเภอ ซึ่งมี 3 อำเภอที่ต้องเฝ้าระวัง คือ อำเภอเมืองชัยภูมิ อำเภอบำเหน็จณรงค์ และอำเภอจัตุรัส ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำ ก่อนไหลไปลงลำน้ำชี ซึ่งหนักที่สุดในรอบหลายสิบปี

จากการสำรวจในเขตเทศบาลเมือง ปริมาณน้ำสูงขึ้นเฉลี่ย 50-70 เซนติเมตร ทำให้บ้านเรือนประชาชน ร้านค้าในเขตเศรษฐกิจ ตลอดจนสถานที่ราชการต่างถูกน้ำหลากเข้าท่วม ทั้งศาลากลาง อนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแล เป็นต้น

บางจุดน้ำสูงราว 1 เมตร 20 เซนติเมตรต้องใช้รถยกสูงของทหารลำเลียงผู้คน ทำให้ชาวบ้านหลายคน ประเมินแล้วว่าไม่สามารถอยู่อาศัยได้ จึงทยอยเก็บข้าวของที่จำเป็นออกมา เพื่อย้ายออกไปอยู่อาศัยที่อื่น

มีกรณีคนงาน เด็กและคนชรา รวม 20 คน ที่เป็นคนงานในโรงงานพลาสติก กำลังได้รับความเดือดร้อน และวิตกกังวลหลังจากที่เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และเพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนตัดสินใจลุยน้ำเสี่ยงตาย ออกมาขอความช่วยเหลือ เพื่อขอให้นำเรือเข้าไปรับชาวกัมพูชาที่ติดในโรงงาน ออกมาด้วย

ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้วิทยุประสานไปยังชุดกู้ภัยและทางอำเภอจัตุรัส ได้รับการปฏิเสธทั้งหมด เนื่องจากเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์ไม่เพียงพอ แต่ขอให้รอไปก่อน เพราะขณะนี้เกิดน้ำท่วมหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอบำเหน็จณรงค์ ที่กำลังถูกน้ำท่วมอย่างหนัก

ถ้าขืนตัดสินใจช้าอาจถูกกระแสน้ำทะลักเข้าพัดพาจมน้ำตายได้ ผู้สื่อข่าวจึงได้แนะนำให้ทุกคนปฏิบัติตาม คือเกาะแขนกันเดินลุยน้ำออกมา โดยเดินต่อแถวกันออกมา ส่วนเด็กให้แบกขึ้นคอ และคนชราให้อยู่ในลำดับต้นๆ ในการลุยน้ำออกมา ทุกคนต่างเดินฝ่าสายน้ำที่เชี่ยวกราดออกมาใช้เวลาประมาณ 10 นาที ก็สามารถขึ้นฝั่งได้สำเร็จ และปลอดภัยทุกคน จากนั้นได้เดินต่อแถวกันไปพักในบริเวณข้างถนนรอเจ้าของกิจการมารับ

ขณะที่โรงพยาบาลบำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ เกิดน้ำท่วมอาคารบริการชั้น 1 สูงประมาณ 80 เซนติเมตร และบริเวณโดยรอบ ทำให้ต้องปิดบริการ

โดยผู้ป่วยในโรงพยาบาลมีทั้งหมด 40 ราย ส่งกลับบ้าน 14 ราย เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วยอีก 26 รายไปยังโรงพยาบาลจัตุรัสที่เป็นโรงพยาบาลแม่ข่ายดูแลรักษา และส่งต่อไปโรงพยาบาลเนินสง่า โรงพยาบาลบ้านเขว้า โรงพยาบาลชัยภูมิ

โดยผู้ป่วย 16 รายอาการไม่รุนแรง ช่วยเหลือตัวเองได้ดี มีผู้ป่วยที่ต้องให้ออกซิเจน 3 ราย และผู้ป่วยโควิด 19 จำนวน 7 ราย ซึ่งได้รับการช่วยเหลือจากทีมกู้ภัยมูลนิธิต่างๆ เรือและรถยกสูงของทหาร มีนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เป็นผู้บัญชาการในพื้นที่

สำหรับการประเมินความเสียหายเบื้องต้น มีห้องเอกซเรย์ ห้องแล็บ ห้องคลอด ไม่สามารถใช้การได้ สามารถย้ายเครื่องมือบางส่วนไปชั้น 2 ได้ คลังเวชภัณฑ์ คลังวัสดุการแพทย์ เครื่องซักผ้า อบแห้ง เครื่องปั่นไฟฟ้าสำรอง 2 เครื่องได้รับความเสียหาย รถพยาบาล 7 คันและรถยนต์ราชการ 4 คันเสียหายทั้งหมด

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/vbqX0JgNNK0