กรมชลประทาน ยืนยันเขื่อนลำเชียงไกร นครราชสีมา ยังไม่แตก แต่ยอมรับคันดินปีกเขื่อนชำรุด จนน้ำล้น ประกาศเตือนประชาชน 8 อำเภอ อพยพขึ้นที่สูง

วันนี้ (26 ก.ย.) ตั้งแต่ช่วงเช้า มีข่าวออกมาว่า เขื่อนลำเชียงไกร อำเภอโนนไทย จังหวัดนครราชสีมาแตก แต่ล่าสุดได้มีการยืนยันจากชลประทานจังหวัดว่า เป็นเพียงการชำรุดของคันดินปีกเขื่อนตั้งแต่ในช่วงเช้าวันนี้ ทำให้น้ำไหลทะลักออกมา จนจังหวัดนครราชสีมา ต้องประกาศให้ประชาชน 8 อำเภอ ย้ายไปอาศัยในที่ปลอดภัย

โดยจุดที่ชำรุดเป็นคันดินยาวประมาณ 15 เมตร เนื่องจากปริมาณน้ำภายในอ่างมีมากจนเกินความจุ โดยล่าสุดก่อนที่คันดินจะพัง อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร ตอนล่าง มีปริมาณน้ำกักเก็บอยู่ที่ 41 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 151% จากความจุอ่างทั้งหมดที่ 27.7 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร ตอนล่าง เป็นอ่างเก็บน้ำที่รับน้ำมาจากพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ และพื้นที่อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา

นายกิตติกุล เสภาศีราภรณ์ ผู้อำนวยการชลประทานจังหวัดนครราชสีมา ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า ปริมาณน้ำจากพื้นที่อำเภอด่านขุนทดได้ไหลลงมายังอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนล่าง มีปริมาณมากจนเกินกว่าที่อ่างจะรับไหว ทำให้มวลน้ำได้กัดเซาะคันดินจนพัง ซึ่งมวลน้ำได้ไหลลงไปพื้นที่ด้านล่าง นอกจากนี้มวลน้ำบางส่วนยังล้นออกทางสปิลเวย์ประตูระบายน้ำฉุกเฉินของอ่างด้วย

โดยทางขณะนี้ทางจังหวัดได้ประกาศแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่บริเวณพื้นที่ด้านท้ายอ่าง 8 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอโนนไทย, อำเภอพระทองคำ, อำเภอเมืองนครราชสีมา, อำเภอโนนสูง, อำเภอพิมาย, อำเภอชุมพวง, อำเภอลำทะเมนชัย และ อำเภอเมืองยาง โดยแจ้งเตือนประชาชนอยู่ในภาวะเสี่ยงอันตรายสูง ให้อพยพไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ในระดับสีส้ม โดยเฉพาะประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำให้เก็บสิ่งของขึ้นไว้บนที่สูง