สถานการณ์ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างชาติพันธมิตรตะวันตกว่า ฝรั่งเศสจะส่งเอกอัครราชทูตกลับไปประจำยังกรุงวอชิงตันของสหรัฐอเมริกาตามเดิมในสัปดาห์หน้า

หลังจากนายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส รับสายคุยกับนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐเป็นเวลานาน 30 นาที เมื่อวันพุธที่ผ่านมาเพื่อคลี่คลายความขุ่นข้องหมองใจเรื่องข้อตกลงสร้างเรือดำน้ำให้ออสเตรเลีย

เจ้าหน้าที่ทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศส และสหรัฐฯ ต่างให้ข่าวร่วมกันว่า นายมาครงและนายไบเดนตัดสินใจเปิดกระบวนการหารือที่ลงลึกในรายละเอียด โดยทั้งสองนัดพบเพื่อเจรจากันปลายเดือนตุลาคมที่ ยุโรป

ทั้งนี้ ทั้งสองเกิดความบาดหมางกันขึ้นหลังจากที่สหรัฐฯ ประกาศจัดตั้งกลุ่มตามข้อตกลงออกัส ระหว่าง สหรัฐฯ อังกฤษ และออสเตรเลีย เพื่อคานอำนาจจีนในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก

โดยตามข้อตกลงนี้สหรัฐจะช่วยออสเตรเลียสร้างเรือดำน้ำเอง ทำให้ออสเตรเลียหันไปยกเลิกสัญญาที่จะซื้อเรือดำน้ำจากฝรั่งเศสมูลค่านับหมื่นล้านดอลลาร์ หรือกว่าล้านล้านบาท ทำให้ฝรั่งเศสไม่พอใจมากและเรียกทูตประจำสหรัฐ และทูตประจำออสเตรเลียกลับประเทศ เพื่อแสดงปฏิกิริยา

กระทั่งล่าสุดหลังการเจรจาระหว่างนายมาครงและนายไบเดน แถลงการณ์ของสองประเทศระบุว่า เอกอัครราชทุตฝรั่งเศสจะกลับไปประจำสหรัฐ โดยมีภารกิจที่ต้องทำงานอย่างเข้มข้นกับเจ้าหน้าที่สหรัฐ

นายไบเดนย้ำถึงความสำคัญของฝรั่งเศส และชาติยุโรป ในยุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก หลังจากสหภาพยุโรป เพิ่งเปิดยุทธศาสตร์กระตุ้นเศรษฐกิจ กระชับความสัมพันธ์ทางการเมืองและการทหารกับชาติเอเชีย ตั้งแต่อินเดีย จีน ญี่ปุ่น ไปถึง อาเซียน นิวซีแลนด์ และชาติในทะเลแปซิฟิก