พระลูกวัดท่าพุ อดีตผู้บำบัดนาน 5 ปี ยืนยันระบบได้ผล ก่อนบวชไม่ได้จ่ายเงิน 2 หมื่นบาท

สังคม

พระลูกวัดท่าพุ อดีตผู้บำบัดนาน 5 ปี ยืนยันระบบได้ผล ก่อนบวชไม่ได้จ่ายเงิน 2 หมื่นบาท

โดย nicharee_m

23 ก.ย. 2564

101 views

พระลูกวัดท่าพุราษฏร์บำรุง และเป็นอดีตผู้บำบัดที่วัดมานาน 5 ปี ยืนยันระบบการบำบัดของทางวัดได้ผล และก่อนบวชเป็นพระไม่ได้จ่ายเงิน 20,000 ให้วัด


จากกรณีการนำเสนอข่าว การช่วยเหลือผู้เข้ารับการบำบัดยาเสพติด ที่ศูนย์บำบัดวัดท่าพุราษฏร์บำรุง อำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี จำนวนเกือบ 300 คนออกมาจากศูนย์บำบัด เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากผู้ปกครองของผู้เข้ารับการบำบัดว่า ทางศูนย์มีการกักขังหน่วงเหนี่ยว ทำร้ายร่างกาย อีกทั้งยังกักขังผู้เข้ารับการบำบัดเอาไว้ในเรือนนอนชั้นเดียวที่มีความแออัด จนทำให้ผู้บำบัดเกือบทั้งหมดป่วยเป็นโรคผิวหนัง


ซึ่งหลังจากเกิดกระแสข่าวดังกล่าว นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้มีคำสั่งให้เคลื่อนย้ายผู้บำบัดทั้งหมด ไปอยู่ที่ โรงพยาบาลสนามภายในค่ายฝึกนักศึกษาวิชาทหารเขาชนไก่ ตำบลลาดหญ้า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งหลังจากนั้น ได้มีบรรดาพ่อแม่ผู้ปกครองของผู้เข้ารับการบำบัด เดินทางมา รับผู้บำบัดกลับไปดูแลที่บ้านเป็นจำนวนมาก จนทำให้มีผู้บำบัด เหลือตกค้างอยู่ที่โรงพยาบาลสนามประมาณ 50 คนเท่านั้น ขณะเดียวกัน ก็มีกระแสข่าวว่า มีกลุ่มผู้บำบัดที่บวชเป็นพระสงฆ์ จำนวนประมาณ 10 รูป ได้ขอกลับออกจากโรงพยาบาลสนามเพื่อกลับมาอยู่ที่วัดท่าพุราษฏร์บำรุง


วันนี้ผู้สื่อข่าว ได้เดินทางลงพื้นที่วัดท่าพุราษฏร์บำรุง เพื่อตรวจสอบอีกครั้ง พบว่าพระสงฆ์ที่เกลับมาจากโรงพยาบาลสนามจำนวน 10 รูปนั้น ได้เดินทางมาร่วมงานศพเจ้าอาวาสวัดที่มรณภาพไป ก่อนที่ครอบครัวของพระสงฆ์จะเดินทางมารับกลับไปอยู่ที่บ้าน คงเหลือพระสงฆ์เพียงรูปเดียวที่อยู่วัดท่าพุราษฏร์บำรุง


พระปรัชญา อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นอดีตผู้เข้ารับการบำบัดยา กล่าวว่า ตนเองเดินทางมาเข้ารับการบำบัดที่วัดแห่งนี้ เมื่อ 5 ปีก่อน โดยในขณะนั้นมีผู้เข้ารับการบำบัดอยู่ไม่ถึง 100 คน ได้ใช้ชีวิตเป็นผู้บำบัดอยู่ที่ศูนย์บำบัดนี้ ประมาณ 3 ปี ก่อนจะตัดสินใจอุปสมบทเป็นพระสงฆ์ ซึ่งตนก็ไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายให้กับทางวัดจำนวน 20,000 บาทเหมือนอย่างที่มีการนำเสนอข่าวออกไป เนื่องจากตนเองประพฤติปฏิบัติตัวดี และช่วยงานทางวัดอย่างสม่ำเสมอ


ส่วนกระแสข่าว เรื่องที่มีการทำร้ายร่างกายกักขังหน่วงเหนี่ยวผู้เข้ารับการบำบัดนั้น โดยส่วนตัวของตนมองว่าเป็นเรื่องของการทำโทษผู้บำบัดที่ทำผิดกฎระเบียบของทางวัด เป็นเหมือนครูที่ทำโทษนักเรียนไม่ใช่การทำร้ายร่างกายหรือทารุณกรรมอย่างที่เป็นข่าว

คุณอาจสนใจ