ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติผ่านร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย วาระแรกด้วยคะแนนเอกฉันท์ 368 เสียง งดออกเสียง 1 และมีผู้ไม่ลงคะแนน1 คน พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ 25 คน

โดยหลังจากนี้ ร่างกฎหมายดังกล่าว จะต้องเข้าสู่การพิจารณาวาระที่ 2 ที่จะพิจารณารายมาตรา และวาระที่ 3 หากผ่านขั้นตอนเหล่านี้ จะเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภา ก่อนทูลเกล้าฯเพื่อประกาศบังคับใช้

นอกจากนี้ ยังมีตั้งกรรมาธิการวิสามัญ 25 คน เข้าไปทำหน้าที่ปรับปรุงเนื้อหาในชั้นกรรมาธิการ มีรายชื่อที่น่าสนใจ เช่น นพ. ทศพร เสรีรักษ์ / นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บ.ก.ลายจุด / นายเอกชัย ไชยนุวัติ ที่พรรคเพื่อไทยเสนอ / นายสมชาย หอมละออ พรรคประชาธิปัตย์เสนอ และนางอังคณา นีละไพจิตร พรรคเสรีรวมไทยเป็นผู้เสนอ โดยกำหนดเวลาแปรญัตติ 7 วัน โดยยึดร่างของรัฐบาลเป็นร่างหลักในการพิจารณา

สำหรับหลักการและเหตุผลของกฎหมายที่เสนอเพื่อให้ การทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ซึ่งกระทำโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงที่ไม่อาจกระทำได้ไม่ว่าในสถานการณ์ใด ๆ เพื่อยกระดับและเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย รวมทั้ง การคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของประเทศ กำหนดฐานความผิด มาตรการป้องกันและปราบปราม และมาตรการเยียวยา ผู้ได้รับความเสียหาย

โดยก่อนหน้านี้ ข่าว 3 มิติ ได้ เปิดเผยรายงานการตรวจสอบรายชื่อบุคคลสูญหายและถูกบังคับให้สูญหาย ของกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม หลังกลุ่มญาติผู้สูญหาย และเครือข่ายญาติวีรชน พฤษภา 35 รวมตัวกันไปยื่น ข้อเรียกร้องให้มีการติดตาม ผ่านองค์การสหประชาชาติหรือยูเอ็นประจำประเทศไทย ทำให้รัฐบาลได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาตรวจสอบ จนพบว่า มีรายชื่อผู้ถูกบังคับหรือทำให้สูญหาย จำนวน 82 รายชื่อ จาก 3 เหตุการณ์ สำคัญ คือ สูญหายจากการสลายการชุมนุมทางการเมืองปี 2535 จำนวน 30 คน สูญหายจากคดีเกี่ยวกับความมั่นคงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 36 คน และช่วงปราบปรามปัญหายาเสพติด จำนวน 12 คน

ในจำนวนนี้ มีผู้สูญหายกรณีที่เชื่อว่าถูกอุ้มหาย อีก 4 คน คือ นายสมชาย นีละไพจิตร อดีตทนายความ / นายพอลละจี รักจงเจริญหรือบิลลี่ แกนนำชาวบ้านที่แก่งกระจาน / นายทนง โพธิ์อ่าน อดีตนักเคลื่อนไหวด้านแรงงาน และนายกมล เหล่าโสภาพันธุ์ ที่เชื่อว่า สูญหายหลังพบเห็นการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐ

ซึ่งมีทั้งคดีที่สั่งยุติการสอบสวนตามความสมัครใจของญาติ พร้อมจ่ายเงินชดเชยแก่ทายาทผู้สูญหาย และบางคดีญาติไม่ประสงค์ให้การยุติการสืบสวน จึงถูกส่งให้กรมสอบสวนคดีพิเศษรับไปติดตามต่อ เช่นคดีของทนายสมชายและการหายไปของบิลลี่ ที่ป่าแก่งกระจาน