เรื่องคดีนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตร ที่จบไปแล้ว ทำท่าจะถูกฟื้นขึ้นมาอีก เมื่อ นายวีระ สมความคิด ไปฟ้องต่อศาลปกครองกลาง ขอให้ ป.ป.ช. เปิดเผย รายงานการตรวจสอบคดีนี้

ล่าสุด ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาออกมาแล้ว ให้ ป.ป.ช. เปิดเผยเอกสาร 2 รายการ คือ รายการการแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐาน และรายงานการประชุมของ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่พิจารณาคดี ตามที่ นายวีระ สมความคิด ไปฟ้องไว้ต่อศาล

ขณะที่ฝั่งของ ป.ป.ช ตอนนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะยอมเปิดเผยข้อมูลตามที่ศาลสั่งหรือไม่ โดย นายนิวัติไชย เกษมมงคล โฆษก ป.ป.ช. เปิดเผยว่า กรณีนี้ ป.ป.ช.ยังต้องรอคำพิพากษาของศาลปกครองกลางเพื่อพิจารณาว่า ศาลมีคำสั่งให้เปิดเผยเอกสารส่วนใด ซึ่งมีแนวทางที่ ป.ป.ช. ต้องพิจารณาว่า จะดำเนินตามคำสั่งศาลได้ทันทีหรือไม่ หรือยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด เพราะตามกระบวนการยังสามารถอุทธรณ์ได้ แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของ ป.ป.ช.

ยังมีรายงานด้วยว่า ในส่วนของ ป.ป.ช. ถ้าเรื่องที่ศาลสั่งให้เปิดเผยเป็นเรื่องที่อยู่ในสำนวนการไต่สวนอาจไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะมีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสิทธิของพยาน ที่ตามกฎหมาย ป.ป.ช. มีการคุ้มครองไว้ ประเด็นนี้อาจทำให้ ป.ป.ช. ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษา ต่อศาลปกครองสูงสุด

ขณะที่ นายวีระ สมความคิด ผู้ฟ้องคดีนี้ กล่าวว่า ยังต้องรอความชัดเจน ว่า ป.ป.ช.จะยื่นอุทธรณ์หรือไม่ แต่ยืนยันว่าจะเดินหน้าตรวจสอบ เพื่อให้เปิดเผยข้อมูลคดี ทั้ง มติ ป.ป.ช. คำชี้แจง 4 ครั้งของพล.อ.ประวิตร ข้อมูลที่บอกว่าพล.อ.ประวิตรไม่ผิด มีอะไรบ้าง มีที่มาอย่างไร และเชื่อถือได้แค่ไหน พร้อมย้ำว่าหาก ป.ป.ช. "ยังดื้อ ไม่ยอมจบ พี่ก็ไม่จบ" เพื่อดำเนินการทางกฎหมายกับ ป.ป.ช.ต่อไป

ย้อนรอย ที่มาของเรื่องนี้เกิดจากการที่ นายวีระ สมความคิด ไปร้องต่อ ป.ป.ช. เมื่อปี 2560 ขอให้ตรวจสอบรายการบัญชีทรัพย์สิน ของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ว่ามีการปกปิดบัญชีทรัพย์สินหรือไม่ เนื่องจากไม่มีการแจ้ง รายการนาฬิกาหรู แต่ ปรากฎว่า ป.ป.ช.ไม่รับเรื่องของนายวีระ จนกระทั้ง ป.ป.ช.ไปตั้งเรื่องสอบสวนเองและมีข้อสรุปเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม ปี 2561 ว่า พลเอกประวิตร ยืมเพื่อนจริง คดีเลยจบไป (ยืมเพื่อนไม่ผิด) แต่ ป.ป.ช. ก็ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดการวินิจฉัยให้สาธารณะชนทราบ