รวบฆาตกร ข่มขืนฆ่าหญิงดาวน์ซินโดรมหมกป่า ญาติคับแค้น ถ้ามาขอขมาจะเตะพานใส่หน้า

อาชญากรรม

รวบฆาตกร ข่มขืนฆ่าหญิงดาวน์ซินโดรมหมกป่า ญาติคับแค้น ถ้ามาขอขมาจะเตะพานใส่หน้า

โดย thichaphat_d

16 ก.ย. 2564

284 views

จากกรณีพบศพนางสาวซิ้ม อายุ 48 ปี มีอาการป่วยดาวน์ซินโดรม นอนเสียชีวิตปริศนาอยู่ข้างร่องน้ำในป่าบริเวณใต้ทางด่วนอุดรรัถยา ภายในซอยร่วมสุข 7/24 หมู่ 3 ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี แพทย์ลงความเห็นคอหักตาย เจ้าหน้าที่ตรวจเช็คกล้องวงจรปิดพบชายต้องสงสัยสวมชุดดำ มีกระเป๋าคาดอกเดินอยู่ และมีผู้ตายเดินตามหลัง กระทั่งตำรวจเค้นสอบ ผู้ก่อเหตุรายนี้จำนนต่อหลักฐานยอมรับสารภาพ


ข่าวที่เกี่ยวข้อง : เพื่อนวงเหล้าแฉ 'นายรุธ' ฆ่าข่มขืนสาวดาวน์ซินโดรม เคยตีคนตายแต่ไม่ถูกจับ


โดยนายรุธ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพอ้างว่า วันเกิดเหตุตนได้เสพกัญชาและดื่มเหล้า เมื่อเลิกดื่มเหล้าจึงได้นำกางเกงไปให้ผู้ตายที่บ้านเพราะรู้จักกัน ก่อนเกิดมีอารมณ์ทางเพศ จึงได้ออกอุบายหลอกล่อว่าให้มานวดให้หน่อยจะให้เงิน


เมื่อเดินมาถึงที่เกิดเหตุภาย จึงได้ทำการข่มขืน เมื่อเสร็จความใคร่แล้ว ฝ่ายหญิงจะกลับแต่นายรุธ ไม่ยอมให้กลับ จึงได้กระชากและจับผู้ตายเหวี่ยงกระเด็นจนศีรษะไปฟาดกับต้นไม้แน่นิ่งไป


ตนพยายามเรียกเท่าไรก็ไม่ตื่น จึงได้พยุงตัวไปที่ร่องน้ำใกล้จุดเกิดเหตุจับกดน้ำ ก่อนจะลากศพขึ้นมาวางไว้ แล้วกลับบ้านเปลี่ยนเสื้อผ้า เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น กระทั่งช่วงดึกวันเกิดเหตุเห็นคนมามุงดูที่เกิดเหตุ จึงเดินมาดูแล้วก็กลับบ้าน จนมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเชิญตัวไปสอบปากคำก่อนปล่อยตัวมา และก็โดนเจ้าหน้าที่ตำรวจตามมาจับกุม พร้อมหลักฐานจากกล้องวงจรปิด จึงให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้กระทำ



ขณะที่วานนี้ (15 ก.ย.) ครอบครัวของนางสาวซิ้ม ผู้ตาย ได้นิมนต์พระสงฆ์มาอัญเชิญดวงวิญญาณ ระหว่างการทำพิธี นางพรพรรณ บางจั่น พี่สาวของผู้ตาย ได้บอกกับดวงวิญญาณของผู้ตายว่า


“พี่มารับเอ็งแล้วนะ ไปกับพี่นะ ไปวัดที่เอ็งชอบดูลิเก ไปกับพี่นะ พระอาจารย์เทียนชัย ทำพิธีทุกอย่างให้ เผาให้หนู ทำพิธีให้หนู หนูอยากได้หนูอยากได้ดอกไม้สวย ๆ รูปสวย ๆ โลงสวย ๆ ไฟประดับสวย ๆ เวลานี้พระอาจารย์ทำให้น้องแล้วนะ งานศพของน้องสวยมาก อยากที่น้องอยากได้ อย่างที่เคยพูดไว้ เวลานี้น้องได้สมใจแล้วนะ” ก่อนจะเดินขึ้นรถกลับไปที่วัดเทียนถวาย


ช่วงบ่ายวันเดียวกันตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิต ได้ควบคุมตัวนายรุธ ไปทำแผน ประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุในป่าละเมาะ ผู้ต้องหามีอาการเครียด เกิดโรคลมชักกำเริบ ชักเกร็งภายในป่าละเมาะ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันถอดหมวกกันน็อกออก และรีบอุ้มตัวขึ้นรถตู้ตรวจ ปฐมพยาบาล แล้วนำกลับไปสอบสวนต่อที่ สภ.ปากคลองรังสิต



ผู้สื่อข่าวได้ไปคุยกับนางพรพรรณ บางจั่น พี่สาวผู้ตาย เผยว่า รู้สึกโกรธมาก เพราะที่ผ่านมาครอบครัวของตนได้ช่วยเหลือจุนเจือครอบครัวนายรุธมาโดยตลอด ช่วยค้ำประกันบ้านให้ ไม่คิดว่าจะทำแบบนี้ได้ วันนี้ผู้ต้องหาก็ได้รับโทษแล้ว ต้องชดใช้กรรมในสิ่งที่ตนเองทำลงไป ตนอยากไปดูเขาทำแผนอยากเห็นพฤติกรรมของนายรุธ แต่ไม่ได้ไปมัวไปทำเอกสารเกี่ยวกับงานศพ


พร้อมระบุว่าในวันที่น้องสาวหายตัวไปในวันที่ 13 ก.ย. ได้เจอกับนายรุธ ที่หน้าบ้านของตน จึงถามว่า “เห็นพี่ซิ้มมั้ย” นายรุธ ตอบว่า “ไม่เห็นเลยป้า ถ้าเห็นจะพากลับมาส่งบ้าน” จากนั้นตนขับรถยนต์ออกตามหาในซอยต่างๆ แต่ไม่เจอ โดยเพื่อนบ้านรายหนึ่ง ให้ข้อมูลว่าเห็นนายรุธ ไม่ใส่เสื้อเดินข้ามร่องน้ำออกมาจากป่าละเมาะภายในซอยร่วมสุข 7/24


ขณะนั้นค่ำมืดแล้ว จึงพากันนำไฟฉายไปส่องตามหาน้องสาว กระทั่งเห็นร้องเท้าของน้องสาวตกอยู่ พอเห็นรองเท้าตนขาอ่อนปล่อยโฮร้องไห้ พร้อมตะโกนเรียกน้องสาวว่า “ได้ยินพี่ติ๋มเรียกมั้ย ถ้าได้ยินก็ปรากฎตัวออกมาให้เห็น จะได้รับกลับบ้าน” ก่อนจะพบร่างน้องสาวเป็นศพอยู่ในป่าละเมาะข้างร่องน้ำดังกล่าว เท้าแช่น้ำ ศีรษะพาดอยู่บนฝั่ง เสื้อฉีกขาด


พี่สาวผู้ตาย เผยกับผู้สื่อข่าวด้วยความคับแค้นใจว่า “อยากจะฆ่ามันด้วยมือของตนเองให้ตายตามกันไป ป้ายอมติดคุกตอนแก่ตายในคุกก็ไม่เป็นไร ตำรวจปิดไม่ให้ป้ารู้ว่าทำแผน ป้าทะนุถนอมน้องสาวยิ่งกว่าไข่ในหิน ไม่มีคำด่าคนเลวแบบนี้ นรกมาเกิด มันยิ่งกว่าอสูรกาย มันไม่ใช่สัตว์ไม่ใช่เปรต แต่มันอยู่ขุมที่ลึกที่สุดของนรก ขอให้มันกลับไปที่ก้นนรก น้องสาวเป็นโรคมะเร็งในกะเพาะระยะสุดท้าย เป็นดาวน์โดรม มันกล้าลงมือทำได้ยังไง ”


“ถ้ามาขอขมาจะเตะพานใส่หน้ามัน ครอบครัวนายรุธ ก็ไม่มีใครโผล่หัวมาขอโทษหรือพูดคุยอะไร น้องสาวกับนายรุธ รู้จักกัน สิ่งที่ทำมันเลวมั้ย จิตสำนึกมีมั้ยทำได้ยังไง ขอให้ตำรวจดำเนินคดีถึงที่สุด อย่าให้หลุดมาได้ ”


ด้านครอบครัวผู้ต้องหา พี่ชายคนที่ 2 ของผู้ต้องหา บอกว่า ตอนแรกที่เห็นวงจรปิด ตนเองไม่เชื่อว่าน้องชายเป็นคนลงมือ ก่อนที่น้องชายจะมาสารภาพกับแม่ว่าเป็นผู้ก่อเหตุ ทำให้แม่ช็อกไปชั่วขณะและตกใจมาก


ยอมรับว่าน้องชายของตนเป็นคนที่รุนแรงบางครั้ง และควบคุมตัวเองไม่ได้ บางครั้งก็ปกติดี เนื่องจากน้องชายของตนเองมีอาการทางสมอง จากอุบัติเหตุเมื่อ 2 ปีที่แล้วหลังถูกรถชนและศีรษะไปฟาดกับฝากระโปรงรถ


น้องชายก็มีอาการโรคลมชัก มานานกว่า 6 ปีแล้ว ซึ่งเบื้องต้นทางครอบครัวได้นำผลการรักษาไปยื่นต่อเจ้าหน้าที่แล้ว อยากจะขอโทษต่อครอบครัวของผู้ตาย เพราะที่จริงแล้วก็รู้จักกันมานาน ซึ่งต้องขอโทษแทนน้องชายตนเอง เพราะเขาไม่ค่อยปกติ ถ้าจะให้ประกันตัวคงไม่มีเงิน แม่เครียดมากไม่คุยกับใครเลย


ส่วนตัวก็ยังไม่ได้คุยกับน้องชาย ไม่คิดว่าน้องชายจะทำเพราะไม่เคยเป็นคนแบบนี้ อยากให้น้องชายไปขอขมา แต่ครอบครัวคนตายคงไม่ให้อภัย ครอบครัวใครใครก็รัก ยอมรับน้องชายทำรุนแรงเกินไป อยากคุยอยากถามน้องชายว่า “ทำไมต้องทำเขาเห็นหน้ากันทุกวัน”



นอกจากนี้ทีมข่าวได้พูดคุยกับหนึ่งในผู้ที่อยู่ร่วมแก๊งดื่มสุรากับผู้ก่อเหตุ ที่ใต้สะพานใกล้กับซอยเกิดเหตุว่า ก่อนที่นายรุธ จะไปก่อเหตุ เผยว่าที่ผ่านมา เวลานายรุธดื่มสุรา มักมีพฤติกรรมรุนแรง ชอบต่อยตีกับคนอื่น โดยอ้างว่าเมื่อ 4 เดือนที่แล้ว นายรุธ เคยก่อเหตุใช้ไม้ตีคนเร่ร่อน เสียชีวิตมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ไม่ได้ถูกดำเนินคดี เนื่องจากผู้ตายไม่มีบัตรประชาชน



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/9bNUDXD7Uso

คุณอาจสนใจ

Related News