สตม.ตรวจสอบการเงินและทรัพย์สินของ "อดีตผู้กำกับโจ้" พร้อมเส้นทางรถหรู เบื้องต้นมีรถในบัญชีต้องตรวจสอบอย่างน้อย 29 คัน

หลังจากที่เมื่อวานนี้ (7 ก.ย.) พนักงานสอบสวนกองปราบปราม นำสำนวนคดีอดีตผู้กำกับการโจ้ และพวก รวม 7 คน ส่งให้ ป.ป.ช. รับไปพิจารณาตามขั้นตอนกฏหมาย ในคดีความผิดต่อหน้าที่ ที่ผู้ถูกกล่าวหาเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ และคดีอยู่ในอำนาจการพิจารณา ของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางแล้ว

วันนี้ (8 ก.ย.) เป็นการเริ่มต้นอีกคดีหนึ่งของอดีตผู้กำกับโจ้ ที่ไม่เกี่ยวกับคดีซ้อมทรมานผู้ต้องหาจนถึงแก่ชีวิต แต่เป็นความผิดคดีที่เกี่ยวกับการเป็นเจ้าของทรัพย์สินจำนวนมาก ทั้งบ้านหรูย่านรามอินทรา และรถยนต์สปอตร์ซุปเปอร์คาร์จำนวนมาก ในบัญชีการครอบครองที่ระบุชื่อผู้ครอบครองคือ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล ว่าได้มาอย่างไร มีฐานะร่ำรวยผิดปกติหรือไม่

โดยสภาพภายในบริเวณบ้านของอดีตผู้กำกับการโจ้ ซึ่งตั้งอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านรามอินทรา เป็นบ้านแบบโมเดิร์น บนเนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ ซึ่งมีการก่อสร้างห้องเก็บรถยนต์หรูคล้ายกับโชว์รูม มองเห็นรถยนต์ที่จอดเรียงรายได้อย่างชัดเจน 

ก่อนหน้านี้ความสนใจพุ่งไปที่ ความผิดต่อหน้าที่กรณีที่ร่วมกับพวกซ้อมทรมานผู้ต้องหาจนเสียชีวิต  จนเมื่ออัยการเข้ารับทำคดี และกองปราบปรามโอนสำนวนถูกโอนให้ ปปช.รับไปแล้ว ทำให้ความกังวลเรื่องการช่วยเหลือผู้ต้องหาก็ลดลง

การสอบสวนปมสงสัยต่อมาคือ ฐานความร่ำรวยของอดีตผู้กำกับโจ้ ผิดปกติหรือไม่ โดยประเด็นนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาต ได้ให้ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เป็นหนึ่งในคณะทำงาน โดยมี พลตำรวจโทสมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เป็นรองหัวหน้าคณะทำงาน ตรวจสอบเส้นทางการเงินทรัพย์สิน และการครอบครองรถยนต์หรูของอดีตผู้กำกับโจ้ เปิดเผยว่า

พลตำรวจโทสมพงษ์ เปิดเผยว่า มีการประสานขอข้อมูลกับกรมศุลกากร​ กรมที่ดิน และกรมการขนส่ง เพื่อตรวจสอบทะเบียนรถยนต์ที่อยู่ในการครอบครองก่อน รายงานไปยังผู้บังคับบัญชา ล่าสุด ได้ประชุมคณะทำงานร่วมกับพนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อรายละเอียดของพยานหลักฐานในคดี แต่ยังไม่สามารถเปิดเผย

ส่วนบัญชีหรือรายการการครอบครองรถยนต์ที่มีชื่อ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ เป็นเจ้าของ ในจำนวนนี้พบว่า มีการแจ้งยกเลิกการครอบครองไปแล้ว 5 คัน จึงเหลือ 24 คัน แต่เมื่อแยกในเบื้องต้น พบว่าในจำนวนนี้มีรถที่จัดเป็นรถหรูและรถสปอตร์ อย่างน้อย 7 คัน 

ก่อนหน้านี้ ข่าว 3 มิติ ได้พยายามแกะวิธีการฟอกรถหรูหนีภาษีของขบวนการนำเข้า พบมีอย่างน้อย 3 รูปแบบ ทั้งการนำรถเข้ามาสำแดงเท็จ ก่อนชี้ให้จับ โดยมีการถอดเอาระบบสมองกลที่ควบคุมรถออกไป เพื่อรอเข้าซื้อหรือประมูลซากมาประกอบใหม่ ทำให้ได้รถราคาต่ำกว่าเสียภาษีตามกฏหมายกำหนด หรือวิธีการสวมหรือปลอมทะเบียน

และอีกวิธีคือ นำเข้ารถอย่างถูกกฎหมาย แต่ใช้วิธีสำแดงราคาต่ำกว่าความเป็นจริง ซึ่งราคาที่ต่ำลง ทำให้เสียภาษีอากรนำเข้าต่ำลงไปด้วย ซึ่งทั้ง 3 วิธีต้องร่วมกันหลายฝ่าย ทำให้การเริ่มต้นสอบเส้นทางรถของอดีตผู้กำกับโจ้ จึงเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่ถูกจับตาว่า นอกจากอดีตผู้กำกับโจ้แล้ว มีเจ้าหน้าที่หน่วยและนายใดเกี่ยวข้องบ้าง