ฉาวอีก! ตร.บุกค้นบ้าน-ทำร้ายร่างกาย แอบหยิบเงินไป 3 หมื่น ล่าสุดเหยื่อโผล่แฉอีกราย

สังคม

ฉาวอีก! ตร.บุกค้นบ้าน-ทำร้ายร่างกาย แอบหยิบเงินไป 3 หมื่น ล่าสุดเหยื่อโผล่แฉอีกราย

โดย weerawit_c

6 ก.ย. 2564

160 views

เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ จ.ชัยภูมิ โดยครอบครัวหนึ่งนำหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิด ที่บันทึกภาพกลุ่มชายฉกรรจ์อ้างตัวเป็นตำรวจปราบยาเสพติด 7-8 คน บุกเข้าไปตรวจค้นภายในบ้านหลังหนึ่งในตำบลบ้านชวน อำเภอบำเหน็จณรงค์ โดยกลุ่มชายฉกรรจ์ได้ตะโกนถามหาคนชื่อ ท็อป หรือนายเกียรติศักดิ์ ว่าอยู่ที่ไหน


จากนั้นก็กรูกันขึ้นไปบนชั้น 2 ของบ้าน และงัดเข้าไปในห้องที่นายท็อปอยู่ จากนั้นก็มีเสียงเอะอะโวยวาย คล้ายมีการทำร้ายร่างกาย ขณะที่นายบุญยืน พ่อของนายท็อป พยายามจะเข้าไปช่วยลูก แต่ถูกผลักและดันออกจากห้อง


ต่อมานายบุญยืนได้ไปแจ้งความไว้กับ สภ.บำเหน็จณรงค์ เนื่องจากขณะนั้นไม่ทราบว่าเป็นตำรวจจริงหรือไม่ พร้อมกับนำภาพจากกล้องวงจรปิดใช้ประกอบหลักฐานในการแจ้งความด้วย เนื่องจากภาพที่กล้องบันทึกได้ จะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่เห็นชายคนหนึ่งในกลุ่มใส่เสื้อสีขาว กำสิ่งของบางอย่างที่มีลักษณะเป็นกระดาษคล้ายธนบัตร แล้วแอบยัดเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของตัวเอง นอกจากนี้ก็ยังมีชายอีกคนหยิบกระเป๋าสะพายใบเล็กของคนในบ้านออกไปด้วย


ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านหลังเกิดเหตุ พบนายบุญยืน อายุ 59 ปี เจ้าของบ้าน เล่าว่า หลังเกิดเหตุทราบว่าชายฉกรรจ์กลุ่มดังกล่าวเป็ฯตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนจากจังหวัดชัยภูมิ ตนเองจึงติดตามไปที่กองกำกับการสืบสวนสอบสวนจังหวัดชัยภูมิ เพื่อขอทราบความเป็นอยู่ของลูกชาย ทำให้ทราบว่าลูกชายกระทำความผิดจริง ตรวจพบปัสสาวะสีม่วง


เมื่อกลับมาถึงบ้าน ภรรยาแจ้งว่ามีทรัพย์สินหายไป เป็นเงินสดจำนวนรวม 32,460 บาท โดยเงินสดถูกเก็บแยกไว้ 2 ส่วน ส่วนแรก 13,460 บาท เก็บไว้ในกระเป๋าสีเหลือง และอีกส่วนหนึ่ง 19,000 บาท เก็บไว้ในกระเป๋าสีเทา จึงเปิดกล้องวงจรปิดตรวจสอบ พบว่ากระเป๋าสีเทาหายไป ส่วนกระเป๋าสีเหลืองยังอยู่ แต่เงินข้างในหายไป วันต่อมาตนได้ไปติดตามทวงถาม ตำรวจได้คืนเงินกลับมาให้จำนวน 13,460 บาท ส่วนอีก 19,000 บาทนั้น ยังไม่ได้คืน


อย่างไรก็ตามเงินจำนวนทั้งหมดนั้น เป็นเงินเก็บบางส่วนและเงินจากการขายวัว 2 ตัว ซึ่งจะเก็บไว้ใช้จ่ายในครอบครัว ตนเชื่อว่าเงินจำนวนที่หายไปนั้น จะต้องมีตำรวจชุดที่เข้ามาทำการจับกุมมีส่วนรู้เห็นอย่างแน่นอน และตนมองว่าตนและครอบครัวไม่ได้รับความเป็นธรรมจึง เข้าแจ้งความกับ สภ.บำเหน็จณรงค์ จนเวลาล่วงเลยไปนานกว่า 6 เดือน คดีไม่มีความคืบหน้า ตนจึงให้ลูกชายโพสต์เรื่องราวลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว เพื่อขอความเป็นธรรมจากสื่อโซเซียล และจะขอดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต่อไป


หลังเรื่องราวเผยแพร่ออกไป ปรากฎว่ามีผู้เสียหายหลายรายออกมาระบุว่า เคยถูกตำรวจแก๊งเดียวกันนี้ทำในลักษณะเดียวกันมาแล้วเช่นกัน โดยนายชัยวัฒนา อายุ 58 ปี และนางกนกพร อายุ 61 ปี เป็นชาวอำเภอซับใหญ่ จังหวัดชัยภูมิ ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคมปีที่แล้ว มีกลุ่มชายฉกรรจ์ 7-8 คน แต่งกายคล้ายตำรวจนอกเครื่องแบบวิ่งเข้ามาในบ้าน พร้อมใช้ปืนยิงข่มขู่ 8 นัด


นอกจากนี้ยังใช้กำลังประทุษร้ายตน ภรรยา และลูกชายด้วย ก่อนที่กลุ่มชายฉกรรจ์จะอุ้มตัวลูกชายไปขึ้นรถ ตนเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.ซับใหญ่ จนมารู้ทีหลังว่า ทั้งหมดเป็นตำรวจจากจังหวัดชัยภูมิ นำตัวลูกชายไปสอบสวนนานกว่า 1 วัน แล้วปล่อยตัวกลับบ้านโดยไม่ได้แจ้งข้อหาใดๆ ตนจึงพาลูกชายไปตรวจร่างกาย และแจ้งความดำเนินคดี แต่จนถึงวันนี้คดีไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด


จากการสอบถามลูกชาย เล่าว่า ตำรวจได้นำตัวไปที่อาคารแห่งหนึ่งในโรงพักที่จังหวัดชัยภูมิ จากนั้นได้ทำการข่มขู่ทำร้ายร่างกาย โดยการนำถุงดำมาคลุมศีรษะ และใช้ลวดมัดที่ลำคอ เพื่อขู่บังคับให้ลูกตนรับสารภาพว่า เป็นผู้ค้า ผู้เสพยา แต่ลูกชายปฏิเสธ จนในที่สุดได้ปล่อยตัวกลับออกมา


โดยจากภาพถ่ายที่ถ่ายไว้ในวันเกิดเหตุ ยังพบร่องรอยของบาดแผล ตามลำคอ ตนรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก เนื่องจากบ้านตนตั้งอยู่กลางป่า ห่างจากหมู่บ้านกว่า 4 กิโลเมตร ซึ่งมีเพียงบ้านตนและลูกเท่านั้น ดังนั้นตนจึงอยากขอวิงวอนให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง เร่งหาทางคลี่คลายคดีให้


ล่าสุดผู้เสียหายทั้ง 2 คดี ได้จ้างทนายความทำคดีให้ โดยได้ทำการตรวจหลักฐานพบว่าเป็นการกระทำจากตำรวจชุดเดียวกัน จึงมีการติดต่อขอข้อมูล จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบสำนวนในการฟ้อง ปรากฎว่าไม่ได้รับความร่วมมือ ดังนั้นจึงเตรียมที่จะยื่นฟ้องตำรวจชุดจับกุมชุดนี้ ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทำร้ายร่างกาย และข้อหาลักทรัพย์

คุณอาจสนใจ

Related News