ดีตผู้กำกับโจ้พวกลูกน้องรวม 7 คน ถูกย้ายมาควบคุมที่เรือนจำกลางคลองเปรมแล้ว หลังโอนย้ายสำนวนคดีมาให้กองปราบปรามทำ ขณะที่มีรายงานว่าอดีตผกก.โจ้พลิกลิ้นปฏิเสธทุกข้อหาที่ให้เคยการ

วันนี้ (3 ก.ย.) เมื่อเวลา 09.50 น. รถควบคุมผู้ต้องขังกรมราชทัณฑ์เดินทางมาถึงเรือนจำกลางคลองเปรม โดนมีรถตำรวจกองปราบปรามนำหน้ามา 1 คัน ตามด้วยรถฟอร์จูนเนอร์สีดำ รถผู้ต้องขัง รถตู้ของราชทัณฑ์ 2 คัน และรถกระบะตู้ทึบของกรมราชทัณฑ์ปิดเป็นคันสุดท้าย รวมขบวนรถที่ใช้ขนย้าย พันตำรวจเอก ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ อดีตผู้กำกับโจ้ พร้อมพวกรวม ทั้งหมด 6 คัน ซึ่งตัวของอดีตผู้กำกับโจ้และพวกรวม 7 คนนั่งมาในรถควบคุมผู้ต้องขังคันที่ 3 เมื่อมาถึงก็เข้าไปในประตูเรือนจำกลางคลองเปรมทันที

มีรายงานว่าการเคลื่อนย้ายครั้งนี้เริ่มขึ้นเมื่อเวลาตี 5 ที่ผ่านมา ตำรวจชุดสืบสวนกองปราบปราม และกำลังตำรวจหนุมานกองปราบฯ ติดอาวุธครบมือ เข้าไปรับตัว ทั้ง 7 คน จากเรือนจำกลางจังหวัดพิษณุโลก เดินทางไปยังเรือนจำกลางคลองเปรม กรุงเทพฯ เพื่อรอการดำเนินคดี หลังจากที่ก่อนหน้านี้ พลตำรวจเอก สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้โอนสำนวนการสอบสวนคดีนี้มาอยู่ในความดูแลของพนักงานสอบสวนกองปราบปราม

นอกจากนี้มีรายงานว่า วันจันทร์ที่ 6 กันยายนที่จะถึงนี้ เวลา 10 โมง พนักงานสอบสวนกองปราบฯ จะนำตัวอดีตผู้กำกับโจ้ กับพวกยื่นผัดฟ้องฝากขังต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง และประมาณบ่ายโมงในวันเดียวกัน พลตำรวจเอก สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผบ.ตร. หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีนี้ จะเรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวนทั้งหมดที่กองปราบฯ เพื่อสรุปสำนวนการสอบสวนส่งให้กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ในวันอังคารที่ 7 กันยายน

ขณะที่เมื่อวานนี้พนักงานสอบสวนกองปราบปราม พร้อมด้วย อัยการ และทนายความเข้าสอบปากคำ อดีตผู้กำกับโจ้ พร้อมพวก ที่เรือนจำกลางจังหวัดพิษณุโลก โดยสอบปากคำจนถึงเที่ยงคืน ผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ ซึ่งการสอบปากคำในครั้งนี้ปรากฏว่าอดีตผู้กำกับโจ้ ปฏิเสธในคำให้การเดิมทั้งหมด โดยอ้างว่า การสอบปากคำที่ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ นั้น ไม่ได้เซ็นชื่อรับทราบข้อกล่าวหา

ขณะที่เมื่อวานนี้ทีมข่าวไปคุยกับอดีตภรรยาของดาบตำรวจ วิสุทธิ์ บุญเขียว หรือ ดาบโบ้ ที่ตำบลหนองกรด อำเภอเมืองนครสวรรค์ เธอ บอกว่า เลิกรากันไปนานกว่า 10 ปีแล้ว และดาบโบ้ไม่เคยอยู่อาศัยที่นี่ พร้อมยอมรับว่า ตกใจที่รู้ข่าวดาบโบ้โดนจับ เพราะช่วงที่คบกันดาบโบ้ไม่เคยแสดงพฤติกรรมรุนแรง หรือใช้ความรุนแรงใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนเรื่องการเงิน ก็มีหนี้สิน เงินไม่ได้คล่องมือ จึงไม่ทราบว่ามีพฤติกรรมการรีดรับเงินหรือไม่

ขณะที่นาย สมพงษ์ เย็นแก้ว รองอธิบดีอัยการภาค 6 เปิดเผยผลการสอบปากคำว่า ทั้ง 7 คน เมื่อวานนี้ว่า ทุกคนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และยืนยันกับชุดสอบสวนว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อต้องการข้อมูลยาเสพติดเท่านั้น แต่อดีตผู้กำกับโจ้ ยังคงให้การภาคเสธอยู่ รับว่าเป็นผู้กระทำจริงแต่ไม่ได้มีเจตนาฆ่า อ้างว่าต้องการข้อมูล หลังจากนี้จะเร่งทำสำนวนการสอบสวนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ภายใน 30 วัน แล้วนำส่งให้อัยการเพื่อยื่นคำร้องต่อศาล