ไฮไลท์การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล วันที่ 3 เมื่อวันที่ 2 ก.ย.64 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี โดยประเด็นสำคัญได้ชี้ให้เห็นถึงกระบวนการจัดหาวัคซีนของรัฐบาล ทั้งวัคซีน mRNA หรือโครงการโคแวกซ์ ที่รัฐบาล ออกมาย้ำว่า วัคซีนเป็นของหายาก และทุกประเทศต้องการ วัคซีนยี่ย้อเดียวที่มีของพร้อมจัดส่งคือ ซิโนแวค เรื่องนี้เบื้องหลังว่าคืออะไร

ช่วงหนึ่ง ส.ส.พิธา ได้นำข้อมูลมาเปิดเผย พร้อมไล่เรียงไทมไลน์ โดยระบุว่าเป็นเอกสารรัฐบาลไทย กับ สถานทูตในประเทศที่มีการผลิตวัคซีนหลายประเทศ เริ่มจากช่วงเดือน พ.ย.2563 ที่มีผู้เสียชีวิต 60 คน

ซึ่งจากเอกสารดังกล่าว ตนขอกล่าวหาว่ารัฐบาลตั้งใจที่จะเทวัคซีนคุณภาพทิ้งลงกลางอ่าวไทย และกล้าพูดเลยว่าแทนที่รัฐบาลจะตามไฟเซอร์ แต่เป็นไฟเซอร์ที่ต้องตามรัฐบาลไทย ว่าจะซื้อวัคซีนของบริษัทหรือไม่ นี่ไม่ใช่การแทงม้าตัวเดียว แต่เอกสารนี้ คือ “การล็อกผลม้า ตั้งใจเทวัคซีนคุณภาพ”

เช่นเดียวกับโครงการโคแว็กซ์ ที่พยายามติดต่อรัฐบาล แต่อยู่ดีๆ ก็หายไลน์ไม่ตอบ จนทางโคแว็กซ์ต้องถามกลับว่าจะเอาอย่างไร จะเข้าหรือไม่เข้าโคแว็กซ์ จนสุดท้ายเรื่องนี้ตามมาหลอกหลอน ทั้งกรณีวัคซีนแอสตราเซเนกา ที่รัฐบาลบอกว่าประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางผลิตวัคซีนแอสตราฯ ในอาเซียน แต่หลังจากนั้น 2 วัน ไปขอบริจาคจากประเทศอื่น ทำให้เกิดความเสียหาย แทนที่จะได้แอสตราฯ เช่นเดียวกับวัคซีนของซาโนฟีของฝรั่งเศสก็ตอบกลับมาว่าบริจาคผ่านโคแว็กซ์เช่นกัน

ส.ส.พิธา ระบุว่า นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะม้าตัวอื่นเทเขาทิ้ง นั่นคือสาเหตุที่ม้าเต็งไม่มา ม้ามืดก็เป็นม้าหลัก นอกจากวัคซีน ส.ส.พิธา ยังพูดถึงชุดตรวจ ATK ที่ขณะนี้ก็ถูกตั้งคำถาม ว่าอาจเป็นการใช้ของไม่ได้มีคุณภาพดีที่สุด เหมือนแทงม้าตัวเดียว ดังนั้นแบบนี้จะไว้ใจนายกฯ ให้ตัดสินใจเรื่องสำคัญนี้ได้หรือไม่ ตนคนหนึ่งที่ไม่ไว้ใจนายกฯ ที่มีการทำผิดซ้ำๆ

พร้อมย้ำว่า ตอนนี้ประเทศไทยมีวิกฤตซ้อนวิกฤต จึงเรียกร้องให้สภาฯ แห่งนี้ว่า เราต้องเลือกว่าเอาชีวิตของประชาชนหรือเอาระบอบปรสิต ถึงเวลาแล้วที่เราต้องเอามัจจุราชในทำเนียบรัฐบาลออกจากประเทศ

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/QGqwYpQZ30I