ทีมข่าวสำรวจบรรยากาศการปลดล็อกให้นั่งทานในร้านอาหารวันแรก (1 ก.ย.64) ลงพื้นที่ไปยังร้านหมูกระทะชื่อดัง คุณเปิ้ลหมูกระทะ ย่านห้วยขวาง บรรยากาศค่อนข้างคึกคัก มีลูกค้ามาใช้บริการจำนวนมาก

โดยคุณปาย เจ้าของร้านบอกว่า วันนี้เปิดร้านตั้งแต่บ่ายโมง การตอบรับค่อนข้างดี มีลูกค้ารายแรกมายืนรอตั้งแต่ยังไม่เปิดร้าน หลังจากนั้นก็ทยอยเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางร้านได้มีมาตรการป้องกันโควิดให้มากที่สุด

จากเดิมที่ตั้งโต๊ะชิดกัน ก็รักษาระยะห่างมากขึ้น ล้างทำความสะอาดวัตถุดิบอย่างดี จัดแบ่งเป็นชุดๆ โดยไม่ให้ลูกค้าตักกันเอง เช็ดพ่นฆ่าเชื้อโต๊ะเก้าอี้ทุกครั้งหลังลูกค้าใช้บริการเสร็จ ให้ลูกค้าวัดไข้ ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ และสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ยกเว้นตอนรับประทานอาหาร

ช่วงที่ยังไม่อนุญาตให้นั่งทานในร้าน ทางร้านได้จำหน่ายอาหารแบบเดลิเวอรี่ แต่รายได้ลดลงกว่า 50% ต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจแย่ลงค่อนข้างมาก ส่งผลกระทบต่อร้านอาหารอย่างมาก ช่วงที่ผ่านมามีพนักงานบางส่วนติดเชื้อ จึงต้องตรวจเชื้อให้พนักงานทุก 3 วัน หากใครพบเชื้อก็รีบให้แยกกักตัว และส่งรักษาจนหายดีหมดแล้ว เราจึงเปลี่ยนมาตรวจเชื้อให้พนักงานทุกๆ 7 วัน

การกลับมาเปิดร้านครั้งนี้ ค่อนข้างกังวล เพราะกลัวว่าจะมีคำสั่งปิดอีก ครั้งนี้เหมือนเป็นการเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ ซึ่งลูกค้าค่อนข้างรอคอยการเปิดร้านมานาน มีทักแชทมาถามตลอดว่าจะเปิดเมื่อไหร่ อยากจะมานั่งทานที่ร้าน ยอมรับว่ารู้สึกกังวลว่าจะมีลูกค้าที่ติดเชื้อมาใช้บริการ

แต่ตนมองว่าขณะนี้ควรจะกลับมาใช้ชีวิตปกติ ทำมาหากินได้แล้ว ต้องอยู่กับมันไปให้ได้ ทั้งนี้ อยากให้ภาครัฐเข้ามาดูแลร้านอาหารให้มากขึ้น เพราะมาตรการเยียวยาที่ช่วยเหลือมามันไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายที่ร้านต้องแบกรับในช่วงที่ปิดร้านไป

ขณะที่ ลูกค้าที่มาใช้บริการร้านหมูกระทะ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า รู้สึกดีใจที่ปลดล็อกให้นั่งทานในร้านได้ รอคอยมานาน โดยเฉพาะหมูกระทะ ที่ทานที่ร้านอร่อยกว่าสั่งไปทานที่บ้าน

ด้านร้านชินโซโคะ ซูชิ (SHINSOKO SUSHI) ย่านคลองเตย ระหว่างที่ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจอยู่ระหว่างการเปิดร้านโดยคุณชนิตา สมพงษ์ เจ้าของร้าน เผยว่า มาตรกรป้องกันโควิด 19 ทางร้านมีความพร้อมอย่างเต็มที่ เริ่มตั้งแต่การนั่งทานภายในโต๊ะ จากนั่งทาน 4 คน ทางร้านจะให้นั่งเพียง 2 คน

พร้อมทั้งยกโต๊ะที่หนาแน่นออกไปร้อยละ 50 เพื่อไม่ให้แออัดมากนัก ความห่างระหว่างโต๊ะในแนวยาวต้องห่างกันประมาณ 2 เมตร แต่ละโต๊ะจะต้องมีฉากกันแยกกันสัดส่วนลูกค้าที่ใช้บริการจะให้เหลือแค่ร้อยละ 50 ตามมาตรการของภาครัฐ

นอกจากนั้นโซนโต๊ะอาหารและโซนทางเดิน จะมีฉากม่านขนาดใหญ่แยกออกจากนั้น เพื่อให้ลูกค้าเกิดความสบายใจมากขึ้น ขณะเดียวกันทางร้านมีพัดลมดูดอากาศ 3 ตัว ที่ดูดอากาศออกสู่ภายนอกตลอดเวลา รวมถึงหน้าต่างกระจกของทางร้านสามารถเปิดระบายให้อากาศถ่ายเทได้

ดังนั้นขอให้ลูกค้ามั่นใจเรื่องความปลอดภัย ส่วนลูกค้าที่มาใช้บริการต้องวัดไข้ ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ หากใครมีอาการไอหรือจามจะเชิญให้ออกนอกร้านก่อน เพื่อความสบายใจของลูกค้าท่านอื่น

ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าช่วงโควิดระบาด รายได้ของร้านติดลบต่อเนื่อง รายได้เหลือเพียงร้อยละ 20 ไม่เพียงพอกับค่าเช่าอาคาร ค่าน้ำค่าไฟ และค่าจ้างพนักงาน ทำให้ขณะนี้ต้องปรับลดรายจ่ายโดยให้พนักงานสนับกันมาทำงานคนละ 20-25 วัน เดิมจะทำเต็มเดือน สลับกันหยุด เพราะร้านเปิดให้บริการทุกวัน

ในส่วนของผู้ประกอบการร้านอาหาร อยากให้ภาครัฐช่วยเยียวยาผลกระทบที่เกิดขึ้น จากมาตรการต่างๆ หรืออย่างน้อยชดเชยเงินเดือนให้พนักงาน คนละ 3,000 บาท ช่วยเจ้าของกิจการเหมือนการเยียวยาครั้งก่อนหน้าก็ยังดี เพราะตอนนี้ผู้ประกอบการร้านอาหารถือว่าติดลบต่อเนื่องได้รับผลกระทบอย่างหนัก

และขอบคุณที่ยกเลิกมาตรการตรวจ ATK ก่อนเข้าร้านอาหาร หรือตรวจสอบการฉีดวัคซีนก่อนเข้ามาทานอาหารในร้าน เพราะถ้าบังคับมาตรการดังกล่าวลูกค้าย่อมไม่พอใจและเกิดการทะเลาะกับผู้ประกอบการร้านอาหารแน่

เนื่องจากความยุ่งยากในการรับประทานอาหาร ทั้งนี้หวังว่าร้านอาหารจะสามารถเปิดขายและให้นั่งในร้านได้ต่อเนื่อง ขอให้ยอดขายเพิ่มมาเป็น 50-60 ก็ยังดีให้เพียงพอกับรายจ่ายที่มีแต่ละเดือน

ขณะที่ ร้านอาหารย่านอุดมสุข เขตบางนา หลายร้านเปิดให้ลูกค้านั่งทานในร้านตามมาตรการของรัฐ และบางร้านยังไม่มั่นใจความปลอดภัย ยังคงงดให้นั่งทานในร้าน เพราะเกรงว่าจะเกิดการติดเชื้อโควิด19 ภายในร้านอีกครั้งเพราะก่อนหน้านี้ เคยติดเชื้อกันทั้งครอบครัว

โดยร้านแอน ข้าวแกงปักษ์ใต้ ซอยอุดมสุข 9-11 เขตบางนา ร้านนี้เปิดให้ลูกค้านั่งทานได้วันแรก เปิดตั้งแต่ 06.30-15.00 น. สาเหตุที่ยอมให้นั่งทานเพราะร้านถูกห้ามนั่งทานในร้านมา 2 เดือนเต็ม รายได้หายไปมากกว่า 60-70% แต่ร้านต้องมีค่าใช้จ่ายเท่าเดิมทุกอย่างค่าเช่าเดือนละ 50,000 บาท ค่าน้ำค่าไฟ รวมถึงจ่ายค่าแรงลูกน้องทุกเดือน

นอกจากนี้ ข้าวแกงใต้ และก๋วยเตี๋ยวเรือ ลูกค้านิยมชอบนั่งทานที่ร้าน ตั้งแต่ให้ซื้อกลับบ้านเท่านั้น ลูกค้าหายไปเยอะมาก การให้กลับมานั่งที่ร้านก็ถือว่าช่วยผู้ประกอบการให้ทำมาหากินได้ง่ายขึ้น ถามว่ากังวลการติดเชื้อหรือไม่ ก็ต้องตอบตามความจริงว่ากลัว

แต่ทางร้านก็ต้องเตรียมความพร้อมทั้งการใส่หน้ากากอนามัย และมีเจลแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อวางตามโต๊ะ ไว้ให้ลูกค้าตลอด การเปิดให้นั่งทานในร้านวันแรก ยอดขายก็น่าจะกลับมาดีขึ้น กว่าในช่วง 2 เดือนที่ขายกลับบ้านอย่างเดียวแน่นอน

ด้านร้านกานต์หมูทอด ปากซอยอุดมสุข 9 แม้รัฐจะผ่อนคลายให้นั่งทานในร้านได้ แต่ทางร้านยังไม่เปิดให้นั่งทาน ให้ลูกค้าซื้อกลับไปทานที่บ้านเท่านั้น เจ้าของร้านบอกว่ายังกังวลกับการระบาดของโควิด19 และโซนอุดมสุขยังมีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก จึงขอให้ซื้อกลับบ้านเอาความปลอดภัยไว้ก่อน เพราะการระบาดรอบที่ผ่านมา คนในร้านติดเชื้อโควิดทั้งครอบครัวรวม 9 คน เพิ่งหายเป็นปกติเมื่อ 1-2 เดือนที่ผ่านมา หากเปิดให้นั่งทานในร้านกลัวจะกลับมาติดเชื้อรอบ 2 อีก

เนื่องจากครั้งแรกหาโรงพยาบาลรักษายากมาก รอเตียงอยู่บ้าน 6-7 วัน คนในครอบครัว 5 คนต้องจำใจเข้ารักษาในโรงพยาบาลเอกชน หมดค่าใช้จ่ายคนละ 160,000 บาท ส่วนอีก 4 คนรักษาตัวที่บ้าน แม้จะหายจากการติดเชื้อทั้งหมดแล้ว แต่ก็ยังกังวล เพราะเด็กในบ้านแต่ละคนมีโรคประจำตัว จึงของดทานที่ร้านไปก่อน จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้นเพราะตัวเลขผู้ติดเชื้อยังเป็นหลักหมื่นอยู่ แม้รายได้จะหายไปมากกว่าร้อยละ 50 ก็ยอม

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/0_Q_KoOD814