สำรวจความเสียหาย หลังนิคมบางปูน้ำแห้ง - ชาวแพรกษาร้อง อยู่เหนือนิคมฯ แต่น้ำไม่ลดมา 3 วัน

สังคม

สำรวจความเสียหาย หลังนิคมบางปูน้ำแห้ง - ชาวแพรกษาร้อง อยู่เหนือนิคมฯ แต่น้ำไม่ลดมา 3 วัน

โดย thichaphat_d

1 ก.ย. 2564

123 views

เมื่อวานนี้ (31 ส.ค. 64) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมบางปู จ.สมุทรปราการ ในเขตประกอบการเสรีเขตส่งออก หลังฝนตกหนักถูกน้ำทะลักเข้าท่วมสูงกว่า 1 เมตร ล่าสุดน้ำแห้งหมดแล้วโดยพบว่าพนักงานหลายโรงงานเริ่มกลับเข้ามาทำงาน สำรวจความเสียหายและช่วยกันเก็บกวาดขยะและล้างทำความสะอาดโคลนที่มากับน้ำ


เช่นโรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์แห่งหนึ่ง ทางบริษัทได้สำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น พนักงานเก็บข้าวของที่เสียหายโดยเฉพาะชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่เตรียมส่งออก บางส่วนซึ่งอยู่บริเวณชั้นล่างด้านในโรงงานถูกน้ำท่วม โดยนำออกมากองรวมกันไว้หน้าโรงงานเพื่อเคลมประกัน ขนขึ้นรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์กว่า 500 พาเลท เตรียมไปทำลายเนื่องจากไม่สามารถนำกลับมาใช้งานได้อีก


สอบถามพนักงานคนหนึ่ง เล่าว่าบริษัทมีโรงผลิตหลายโรง โดยโรงที่เป็นคลังเก็บสินค้าชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เตรียมส่งออกถูกน้ำท่วมเสียหาย พนักงานบางแผนกจึงมาช่วยกันล้างทำความสะอาดด้านในโรงงานที่ถูกน้ำท่วมเต็มพื้นที่ พร้อมทั้งเช็คของอันไหนใช้ได้หรือไม่ หากใช้ไม่ได้ก็จะแยกมากองไว้หน้าโรงงาน ส่วนพนักงานฝ่ายผลิตบริษัทให้หยุด


สำหรับชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่ถูกน้ำท่วม วานนี้ตลอดทั้งวันทางบริษัทใช้รถบรรทุกทยอยขนออกจากโรงงานเร่งส่งให้กับลูกค้าต่างประเทศ หวั่นหากเกิดฝนตกหนักซ้ำเติมอาจเกิดน้ำท่วมอีก เกรงว่าสินค้าจะได้รับความเสียหาย ผลิตส่งลูกค้าไม่ทันตามกำหนด ทั้งนี้พบว่าหลายบริษัทที่ถูกน้ำท่วมเครื่องจักรคาดเสียหายเกือบทั้งหมด


ส่วนบริเวณลานจอดรถโรงงานต่าง ๆ รถยนต์และรถจักรยานยนต์ของพนักงานเคลื่อนย้ายไม่ทัน ถูกน้ำท่วมเสียหายเป็นจำนวนมาก รวมถึงรถยนต์พนักงานที่จอดไว้ตามริมทางในนิคมฯ ด้วย ก็ได้รับความเสียหายเช่นกัน เจ้าของรถต่างทยอยติดต่อบริษัทประกัน เข้าตรวจสอบความเสียหายขอรถของ และนำรถสไลด์มาทำการขนย้ายออกไปเข้าอู่ซ่อม


นายวระรัตน์ จำปา อายุ 35 ปี พนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง บอกว่า คืนวันที่ฝนตกหนักน้ำทะลักเข้าท่วมโรงงานในนิคมฯไวมาก ตนเองกำลังจะไปเคลื่อนย้ายรถแต่ไม่ทันเพราะระดับน้ำสูงเท่าเอวแล้ว ได้แต่มองรถที่ถูกน้ำท่วมน้ำตาแทบไหลโชคดีที่ทำประกันชั้น 1 ไว้ ตั้งแต่ทำงานในนิคมฯ แห่งนี้ครั้งนี้น้ำท่วมหนักสุด ระบบการระบายน้ำแย่มาก


ขณะที่บางหมู่บ้านที่ถูกน้ำท่วม น้ำลดกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว อย่างที่หมู่บ้านไทรงาม หมู่ 5 ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมืองจ.สมุทรปราการ ที่ถูกน้ำไหลทะลักเข้าไปในบ้านสูงกว่า 50 เซนติเมตร ข้าวของในบ้านได้รับความเสียหาย หลังน้ำลดลงได้เข้าทำความสะอาดและรื้อข้าวของที่เสียหายออกมากองหน้าบ้านรอทิ้ง


สุภาพร มูลยาพอ ชาวบ้านหมู่บ้านไทรงาม เผยว่า ลงทุนซื้ออิฐบล็อกมาเตรียมก่อกำแพงกั้นน้ำหน้าบ้าน หวั่นน้ำท่วมซ้ำ “อยากให้หน่วยงานภาครัฐเข้ามาช่วยดูแลเรื่องท่อระบายน้ำและการปิดเปิดประตูระบายน้ำให้น้ำในท่อไหลระบายให้ดีขึ้น”


นายอุทัย พิมพ์แพง อายุ 46 ปี ชาวบ้านอีกราย เผยว่า น้ำไหลทะลักเข้ามาในบ้านสูงกว่าครึ่งหน้าแข้ง ตู้เสื้อผ้า ตู้โชว์และทรัพย์สินอื่นๆ ที่วางอยู่ด้านล่างได้รับความเสียหายทั้งหมด ตนต้องมาคัดแยกข้าวของว่าอันไหนใช้ได้ อันไหนใช้ไม่ได้ก็คักแยกออกมาทิ้งและก็หาลังพลาสติกมาใส่กันน้ำ ขนาดพื้นบ้านของตนยกสูงกว่าถนนในหมู่บ้านยังไม่รอด


“นอกจากนี้ยังมีผู้เสียหายอีกเกือบทั้งหมู่บ้านที่ได้รับความเดือดร้อน อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาทำการลอกท่อ ดูระบบท่อระบายน้ำ ถ้ามันไม่ท่วมก็ไม่มีปัญหาอะไร ตอนนี้ไม่มีอะไรจะให้กลัวแล้วเพราะข้าวของในบ้านพังหมดไม่มีอะไรจะให้เสียหายอีกแล้ว”


นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน จากรณีที่เกิดฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องในช่วงค่ำของวันที่ 28-29 ส.ค.ที่ผ่านมา ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมสูงหลายพื้นที่


โดยผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่ริมถนนแพรกษา หมู่ที่ 4 ตำบลแพรกษา อำเภอเมือง จ.สมุทรปราการ ว่าบ้านถูกน้ำท่วมมาตั้งแต่กลางดึกวันที่ 28 สิงหาคม จนถึงเมื่อวานนี้ (31 ส.ค.) ระดับน้ำก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะลดระดับลงทำให้เดือดร้อนมาก


ต่อมาทีมข่าวจึงลงพื้นที่เดินทางไปตรวจสอบพบว่าบ้านหลังดังกล่าวตั้งอยู่ริมถนนแพรกษา เป็นบ้าน 2 ชั้น บริเวณชั้น 1 ถูกน้ำท่วมสูงประมาณ 40 ซม. น้ำเต็มพื้นที่ในบ้านต้องยกของหนีน้ำไว้ที่สูง


ผู้พักอาศัยเล่าว่าบ้านของตนสร้างมานานกว่า 60 ปี ก่อนที่ถนนจะมาถมให้สูงขึ้นเมื่อไม่กี่ปีมานี้ จึงทำให้น้ำท่วมบ่อยครั้ง แต่ทุกครั้งก็ท่วมไม่มากและน้ำจะลดระดับเร็ว ครั้งนี้น้ำท่วมหนักกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาและท่วมนานถึง 3 วัน ทั้งที่จุดอื่นๆ เช่น นิคมบางปูน้ำได้ลดระดับลงแล้ว ตนก็ไม่เข้าใจว่าทำไมน้ำในบ้านตนไม่ลดลงเลย ทั้งๆ ที่พื้นที่อยู่ต้นน้ำนิคมอุตสาหกรรมบางปู จึงอยากวอนให้ผู้เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ เพราะน้ำท่วมครั้งนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาตรวจสอบหรือสำรวจใดๆ เลย และไม่รู้จะต้องอยู่แบบนี้อีกนานแค่ไหน เข้าใจท้องภิ่นต้องพัฒนาเมือง นำดินมาทับถมคลองที่ชาวบ้านเรียกกันมานานกว่า 20 ปี


แต่ทางเทศบาลตำบลแพรกษา พยายามบอกว่าเป็นแผ่นดินเดิมแค่ขุดหน้าดินมาทำถนน จนเป็นคลอง และต่อมาก็ถมเพื่อรองรับการขยายเมือง รวมระยะทางกว่า 13-15 กิโลเมตร จนปัจจุบันกลายเป็นถนนเพิ่มอีก 3 เลน ไม่รวมฟุตบาท ซึ่งตนคาดว่าอาจจะเกิดจากทิศทางน้ำไหลเปลี่ยนไปทำให้น้ำระบายช้าก็เป็นได้


ด้านนางทุเรียน ง่วนจร อายุ 57 ปี เจ้าของบ้าน เล่าว่า ปกติถ้าฝนตกหนักน้ำก็จะท่วม แต่น้ำจะระบายออกเร็วและลดระดับเร็วกว่านี้ แต่ครั้งนี้น้ำท่วมหนักกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ท่วมเร็วมากจนคนในบ้านขนของหนีน้ำไม่ทัน ทำให้ข้าวของเช่น เครื่องซักผ้า ตู้เย็น จักรเย็บผ้า ตู้เสื้อผ้า ที่นอน ได้รับความเสียหาย ห้องน้ำไม่สามารถใช้ได้ ต้องไปอาศัยเข้าห้องน้ำที่บ้านญาติ ส่วนสาเหตุที่น้ำท่วมเพระถนนอยู่สูงกว่าบ้านน้ำจากถนนจึงผ่านท่อลงมาพื้นที่ในบ้านของตน ยากให้ผู้เกี่ยวข้องช่วยหาแนวทางแก้ไข



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/vd_618utfx8

คุณอาจสนใจ

Related News