สึกยกแก๊งเจ้าอาวาส ตั้งวงซดเบียร์-กินหมูกระทะ ชาวบ้านผิดหวังพระผู้ใหญ่ทำตัวไม่เหมาะสม

สังคม

สึกยกแก๊งเจ้าอาวาส ตั้งวงซดเบียร์-กินหมูกระทะ ชาวบ้านผิดหวังพระผู้ใหญ่ทำตัวไม่เหมาะสม

โดย nicharee_m

31 ส.ค. 2564

200 views

สึกแล้ว 7 รูป แก๊งเจ้าอาวาสตั้งวงกินหมูกระทะซดเบียร์ หลังศาลตัดสินผิดอาญา สุดช็อกหนึ่งในนั้นถึงกับเปลี่ยนชุดฆราวาสออกไปซื้อเบียร์เอง ด้านชาวบ้านผิดหวังพระผู้ใหญ่ทำตัวไม่เหมาะสม


ตำรวจสายตรวจ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ บุกเข้าจับกุมคณะสงฆ์ตั้งวงกินหมูกระทะ ดื่มเบียร์ อยู่ในกุฏิที่วัดปันเสา บริเวณคูเมือง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อคืนวันที่ 29 สิงหาคม หลังมีชาวบ้านร้องเรียนว่า เจ้าอาวาสพร้อมพระลูกวัดที่นี่ ล้อมวงกันดื่มเหล้าเบียร์ พร้อมพูดคุยกันเป็นภาษาพูด และภาษาสวดกันเสียงดัง แบบไม่เกรงกลัวกฎหมาย หวั่นว่าจะเป็นการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ด้วย ซ้ำยังเป็นพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับสมณเพศ



เมื่อตำรวจเข้าไปถึง พบพระ 6 รูป ฆราวาส 2 คน ได้แก่ 1.พระครูปลัดสุรเดช เจ้าอาวาสวัดยางกวง 2.พระครูมนูญธรรมศาสถ์พุทธกร เจ้าอาวาสวัดหัวฝาย 3.พระอธิษฐณัฏฐ์ เจ้าอาวาสวัดบ้านปิง 4.พระภานุกร เจ้าอาวาสวัดปันเสา 5.พระใบฏีกายนนนท์ 6.พระทักษิณ พระลูกวัดปันเสา 7.นายจรัสวลี ราชสมบัติ และ 8.นายสหการ สมศักดิ์ ตั้งวงสนทนากันอยู่ พร้อมของกลาง มีทั้งเหล้า เบียร์กระป๋อง และกับแกล้มจำนวนมาก โดยพระทุกรูปเมื่อเห็นตำรวจต่างแสดงอาการสำรวม และยอมรับว่าดื่มเหล้าเบียร์กันจริง โดยมีเจ้าอาวาสวัดเป็นหัวโจก


จึงเชิญตัวทั้งหมดไปสอบสวนที่โรงพัก จับตรวจแอลกอฮอล์ พบแอลกอฮอล์ในเลือด 4 คน คือ เจ้าอาวาสวัดยางกวง เจ้าอาวาสวัดหัวฝาย เจ้าอาวาสวัดบ้านปิง และ นายสหการ แต่เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียด พบว่า แท้จริงแล้ว นายสหการ เป็นพระสหการ สหายธัมโม แต่ตอนเกิดเหตุ ได้แต่งชุดฆราวาสออกไปซื้อเบียร์ ตำรวจจึงเข้าใจว่าเป็นฆราวาส ทำให้เหตุการณ์นี้มีพระกระทำผิดรวม 7 รูป


พนักงานสอบสวนจึงดำเนินคดีกับทั้ง 8 คน ในข้อหาร่วมกันชุมนุมมั่วสุ่มหรือทำกิจกรรม ณ ที่ใด ๆ ในสถานที่แออัดหรือสถานที่อื่นในลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ และ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มีของกลางเป็นกระป๋องเบียร์เปิดแล้ว จำนวน 5 กระป๋อง และ ที่ยังไม่ได้เปิดอีก 3 กระป๋อง และ เครื่องดื่มไวน์อีก 3 ขวด ที่ยังไม่ได้เปิด


ส่วนพระ 4 รูป ที่พบแอลกอฮอล์ในเลือด ยังถูกแจ้งข้อหาเพิ่มในข้อหาบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวัด หรือสถานที่ปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนา อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 พร้อมนำผู้ต้องหาทั้งหมดส่งฟ้องศาลแขวงเชียงใหม่ โดยศาลแขวงเชียงใหม่ มีคำตัดสินให้ทั้ง 8 คน ต้องโทษจำคุก 15 วัน ให้รอลงอาญา 1 ปี และ ปรับคนละ 10,000 บาท ส่วน 4 คน ที่ดื่มสุราในวัด มีอโทษปรับอีก 2,500 บาท


ทั้งนี้ก่อนส่งฟ้องศาล เจ้าหน้าที่นำพระทั้ง 7 รูป ไปพบเจ้าอาวาสวัดสวนดอก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ให้พิจารณาลาสิกขา แต่เจ้าอาวาสวัดสวนดอก ระบุว่า เรื่องที่เกิดเป็นอาบัติปราจิตตรี ไม่ถึงขั้นปราชิก และพระทั้งหมดไม่ประสงค์จะสึก จึงไม่สามารถสึกได้


แต่เมื่อถูกศาลตัดสินคดีแล้ว พระสงฆ์ทั้ง 7 รูป ได้แจ้งลาสิกขากับเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่แล้ว เมื่อช่วง 1 ทุ่มวานนี้ ซึ่งทั้ง 7 คน ได้สวมชุดขาว พร้อมลงนามในหนังสือแจ้งการลาสิกขาสละสมณะเพศ ด้วยความสมัครใจ


ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับชาวเชียงใหม่ ที่เคยไปทำบุญที่วัดยางกวง บอกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นถือว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง และคนที่ทำผิดเป็นถึงพระผู้ใหญ่ เป็นเจ้าอาวาส มาทำผิดเสียเอง เห็นแล้วตกใจ ปกติตนชอบทำบุญ แต่เรื่องที่เกิดขึ้นครั้งนี้อาจทำให้การตัดสินใจเข้าวัดทำบุญของตนเปลี่ยนไป


ขณะเดียวกัน เรื่องที่เกิดขึ้น ยังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของคณะสงฆ์ในเชียงใหม่ ต่างมองว่า คณะสงฆ์กลุ่มนี้ปฏิบัติตนไม่เหมาะสม มีพระระดับผู้ใหญ่ถึง 4 รูป และยังรู้อีกว่ามีพระระดับพระครูอีกรูปเดินทางมาไม่ทัน เพราะเกิดฝนตกเสียก่อน ความผิดครั้งนี้ทางสงฆ์ถือว่า อาบัติปราจิตตรี เป็นความผิดเล็กน้อย ส่วนทางโลก ความผิดเรียกว่า "โลกะวัชชะ" สังคมติเตียน และยังผิด พ.ร.บ.ควบคุมโรคด้วย


สำหรับเจ้าอาวาสวัดปันเสา ซึ่งเป็นวัดเกิดเหตุ เป็นพระที่โด่งดังจากการพรมน้ำมนต์กลายเป็นพระธาตุ มีลูกศิษย์มากมาย เป็นพระนักพัฒนา เปิดร้านกาแฟที่วัดจนเป็นที่โด่งดังของเชียงใหม่







คุณอาจสนใจ

Related News