หมอผู้กองซิ่งเปอร์เช่ ร่ำไห้ขอขมาศพ ญาติคาใจผลตรวจแอลกอฮอล์

สังคม

หมอผู้กองซิ่งเปอร์เช่ ร่ำไห้ขอขมาศพ ญาติคาใจผลตรวจแอลกอฮอล์

โดย pattraporn_a

30 ส.ค. 2564

258 views

หมอ รพ.ตร. ซิ่งปอร์เช่ชนดับ 2 ศพ ร่ำไห้เข้าขอขมาศพ ขณะที่พี่สาวเหยื่อยังคาใจผลตรวจแอลกอฮอร์


ความคืบหน้ากรณีว่าที่ร้อยตำรวจเอก แพทย์โรงพยาบาลตำรวจขับรถปอร์เช่ป้ายแดง ชนรถยนต์ ที่ใต้สถานีรถไฟฟ้าบางหว้า ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน สาหัส 1 คน เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา (30 ส.ค.) ได้ไปขอขมาญาติผู้เสียชีวิตที่โรงพยาบาล ขณะที่ญาติผู้ตายคาใจ ความเร็วรถและผลตรวจแอลกอฮอล์


ว่าที่ร้อยตำรวจเอก ภาณุรักษ์ รัตนไพศร นายแพทย์ (สบ.1) กลุ่มงานศัลยกรรม โรงพยาบาลตำรวจ ผู้ขับขี่รถปอร์เช่ นำพวงมาลัยมาไหว้ขอขมาร่าง นางสาวพรยมล แซ่ลิ่ม อายุ 29 ปี หนึ่งในผู้เสียชีวิต ที่โรงพยาบาลศิริราช ทั้งน้ำตาพร้อมกล่าวแสดงความเสียใจ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น




ได้กราบเท้าขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมบอกว่ายินดีที่จะรับผิดชอบทุกอย่าง และดูแลครอบครัวผู้เสียชีวิตตลอดไป โดยทางครอบครัวผู้ตายได้พูดคุยกับ ว่าที่ร้อยตำรวจเอก ภาณุรักษ์ อยู่พักใหญ่ โดยสื่อมวลชนทำได้เพียงบันทึกภาพอยู่ด้านนอกเท่านั้น และ ว่าที่ร้อยตำรวจเอก ภาณุรักษ์ ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน จากนั้นครอบครัวของ นางสาวพรยมล นำร่างขึ้นรถตู้เพื่อไปประกอบพิธีฌาปนกิจที่บ้านเกิด ในอำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราชทันที




ขณะที่พี่สาวของผู้เสียชีวิต เล่าทั้งน้ำตาว่า ในวันเกิดเหตุ น้องสาวกำลังเดินทางไปซ้อมวิ่งแถวพุทธมนฑลสาย 2 โดยไปกับ นายชาคริต สิริอิสสระนันท์ อายุ 75 ปี ผู้เสียชีวิตอีกราย ซึ่งเป็นโค้ชฝึกสอนที่นับถือกันเหมือนญาติ และนางสาวผ่องเพชร สิริอิสสระนันท์ อายุ 44 ปี คนขับรถคือลูกสาวของโค้ช ขณะนี้อาการยังสาหัส รักษาตัวในห้อง ICU เธอบอกว่าน้องสาวทำงานราชการ แต่มีงานอดิเรกคือการแข่งขันวิ่งมาราธอน จะไปซ้อมเป็นประจำทุกเช้าวันอาทิตย์กับทีมนักวิ่งด้วยกัน ตอนที่เกิดเหตุเพื่อนในทีมวิ่งรู้เป็นคนแรก เพราะคุยไลน์มาตลอดทางก่อนจะขาดการติดต่อไป และจังหวะที่โทรกลับไป คนที่ชนเป็นคนรับสายและแจ้งว่าน้องสาวเสียแล้ว ซึ่งคนในครอบครัวยังทำใจไม่ได้


พี่สาวของผู้เสียชีวิต  ยอมรับว่าครอบครัวยังคาใจ 2 ประเด็น คือ ความเร็วรถ และปริมาณแอลกอฮอร์ เพราะหลังเกิดเหตุ จส.100 รายงานว่า รองสารวัตรจราจร สน.ภาษีเจริญ เปิดเผยผลการตรวจวัดแอลกอฮอล์ได้ปริมาณ 80 มิลลิกรัมเปอร์เซนต์ แต่ต่อมาสารวัตรสอบสวน สน.ภาษีเจริญ ระบุว่า ได้นำตัวคู่กรณีมาตรวจวัดแอลกอฮอล์พบปริมาณ 44 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ไม่ถือว่าเมาแล้วขับ


ซึ่งในประเด็นนี้ทีมข่าวได้ตรวจสอบไปยัง พันตำรวจเอก สุรเวช การวัฒนาศิริกุล ผู้กำกับการ สน.ภาษีเจริญ และพันตำรวจโท ทรงศักดิ์ สู่พานิช รองผู้กำกับจราจร บอกว่ายังไม่ได้รายงานเช่นกัน


ทีมข่าวจึงสอบถามไปยัง พลตำรวจตรี ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล บอกว่า ในประเด็นนีได้สอบถามไปยังสื่อที่ลงข่าวดังกล่าว ได้คำตอบว่า ข้อมูลนี้นักข่าวไม่ได้ไปคุยเอง และตำรวจนายดังกล่าวที่ถูกระบุฝในข่าว อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าได้ข้อมูลนี้มายังไง และให้รายงานขึ้นมาอีกครั้ง


ตามกฎหมายแล้ว กรณีที่ขับรถแล้วตรวจพบว่ามีปริมาณแอลกอฮอร์ในเลือดเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซนต์ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับตั้งแต่ 5,000 - 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจถูกพักใบอนุญาตขับขี่ไม่ต่ำกว่า 6 เดือน หรือเพิกถอนใบอนุญาต



สามารถดูข่าวทาง Youtube ได้ที่ : https://youtu.be/WoPlvBhbBdM



คุณอาจสนใจ

Related News