จากกรณีของอดีตผู้กำกับโจ้ หากย้อนกลับไปในอดีต ในหลายพื้นที่เคยมีการร้องเรียนเกี่ยวกับการถูกเจ้าหน้าที่รัฐทรมาน เพื่อแลกกับคำรับสารภาพ หรือ ขยายผล ซึ่งเหยื่อเหล่านี้ ต่างเรียกร้องให้เร่งผลักดัน พ.ร.บ.ทรมานและอุ้มหาย มาบังคับใช้โดยเร็ว

ไม่ใช่เฉพาะกรณีนี้ แต่หากย้อนไปตั้งแต่อดีต ในหลายท้องที่ หลายจังหวัด เคยมีการร้องเรียนว่ามีเหยื่อ ที่ถูกเจ้าหน้าที่รัฐ ทรมานเพื่อแลกกับคำสารภาพ เหมือนกับ เหตุการณ์ของลูกชาย นายสมศักดิ์ ชื่นจิตร ที่เกิดขึ้นภายใน สภ.แห่งหนึ่ง ในจังหวัดปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2552 หรือเมื่อ 12 ปีที่แล้ว ลูกชายของสมศักดิ์ ถูกตำรวจควบคุมตัว ขณะกำลังขี่รถกลับ เพียงเพราะเขาแต่งกายคล้ายกับคนร้ายที่กระชากสร้อยคอทองน้ำหนัก 3 บาท และถูกพาเข้าไปเค้นสอบภายในห้องๆหนึ่ง เพื่อบีบบังให้สารภาพ ด้วยการใช้ถุงพลาสติกครอบศีรษะ และทำร้ายร่างกาย ทั้งที่ไม่ใช่คนร้าย แต่เพื่อยื้อลมหายใจ ลูกชายจึงจำยอมรับสารภาพ เพื่อเอาตัวเองออกจากสนามทรมาน และบอกให้ผู้คนรู้ว่าเขาถูกกระทำอย่างไร และในที่สุด คดีนี้ ก็จับคนร้ายตัวจริงได้

แม้เวลาที่ล่วงเลยมาถึง 12 ปี แต่ลูกชายของเขา ยังต้องเผชิญกับโรค PTSD ซึ่งสภาวะป่วยทางจิตใจ หลังจากต้องเผชิญกับเหตุการณ์กระทบกระเทือนจิตใจอย่างรุนแรง

แต่ในทางกลับกับ เจ้าหน้าที่ผู้ทรมาน ที่เคยแวะเวียนมาขอเคลียร์คดี กลับยังคงเจริญเติบโตในหน้าที่การงาน

ซึ่งแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ได้รวบรวมข้อมูลการทรมานที่เกิดขึ้นทั่วโลก ประจำปี 63 มีคำกล่าวอ้างที่เชื่อได้ว่ามีการทรมานหรือ การปฏิบัติที่โหดร้ายระหว่างการควบคุมของรัฐต่างๆ อย่างน้อย 87 ประเทศ จาก 149 ประเทศหรือคิดเป็น 58 % ขณะที่มีข้อมูล ผู้เสียชีวิตระหว่างถูกควบคุมตัว อันเป็นผลจากการทรมาน หรือการปฏิบัติที่โหดร้าย มากถึง 41 ประเทศ หรือคิดเป็น 28%

เมื่อย้อนกลับมาที่ไทย มุมของเหยื่อ มองว่า ภาครัฐควรเร่งผลักดันพระราชบัญญัติทรมานและอุ้มหาย มาบังคับใช้

ล่าสุด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ระบุว่า ร่าง พ.ร.บ.นี้ อยู่ระหว่างการรอบรรจุเข้าสู่วาระการประชุมของสภาผู้แทนราษฎรในวาระแรก ทั้งนี้เพื่อให้การป้องกันและปราบปรามการทรมาน การกระทำให้บุคคลสูญหาย รวมทั้งการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น

สามารถดูข่าวทาง Youtube ได้ที่ : https://youtu.be/QYWF6malwfE