คลายล็อกดาวน์ นั่งกินในร้าน-เปิดห้าง-ร้านตัดผม เริ่ม 1 ก.ย.นี้

สังคม

คลายล็อกดาวน์ นั่งกินในร้าน-เปิดห้าง-ร้านตัดผม เริ่ม 1 ก.ย.นี้

โดย passamon_a

28 ส.ค. 2564

63 views

เรื่องการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ วันที่ 27 ส.ค.64 ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ มีข้อสรุปออกมาแล้ว นอกจากสามารถนั่งในร้านอาหารได้ ยังอนุญาตให้กิจการในห้างสรรพสินค้า บางส่วนกลับมาเปิดให้บริการ


แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษก ศบค. แถลงสรุปผลการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ พิจารณามาตรการล็อกดาวน์ ที่จะครบกำหนดการประเมินในวันที่ 31 ส.ค.นี้ โดยหลัก ๆ ที่ประชุม ยังคงพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือพื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัดเหมือนเดิม เนื่องจากมีรายงานการพบผู้ติดเชื้อ และผู้เสียชีวิตเป็นวงกว้าง ส่วนมาตรการเวิร์คฟอร์มโฮม และเคอร์ฟิว ห้ามประชาชนออกนอกเคหสถาน ระหว่าง 3 ทุ่มถึงตี 4 นั้น ยังบังคับใช้อย่างน้อยไปอีก 14 วัน


ส่วนกิจการ และกิจกรรม ที่ ศบค. ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.2564 ครอบคลุม 6 ประเภท คือ ร้านอาหาร สามารถนั่งรับประทานในร้านอาหารได้ มีแอร์นั่งได้ 50% ของความจุ ส่วนร้านไม่มีแอร์ นั่งได้ 75% ของความจุ


ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ เปิดได้ถึงเวลา 20.00 น. ทุกแผนก โดยกิจการที่เปิดได้แบบมีเงื่อนไขคือ ร้านเสริมสวย ร้านตัดผม เปิดได้เฉพาะตัดผมเท่านั้น ไม่เกิน 1 ชั่วโมง, ร้านนวด เฉพาะนวดเท้า, คลินิกเสริมความงาม เฉพาะจำหน่ายสินค้า, ร้านอาหาร นั่งได้ 50%


ส่วนสถาบันกวดวิชา โรงภาพยนตร์ สปา สวนสนุก สวนน้ำ ฟิตเนส สระว่ายน้ำ ห้องจัดประชุม/จัดเลี้ยง ยังไม่สามารถเปิดบริการได้


ขณะที่กิจการกิจกรรรมนอกห้างอื่น ๆ ในส่วนที่เปิดได้คือ ร้านเสริมสวย ร้านตัดผม แต่งผม ร้านนวด โดยย้ำให้จองล่วงหน้าและใช้เวลาจำกัด แต่ในส่วนสถานศึกษา ยังไม่เปิดเรียน แต่ให้ใช้อาคารสถานศึกษาได้ เช่น การจัดสอบ จัดประชุม หรือจัดการเรียนการสอน ซึ่งต้องผ่านความเห็นของจากกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดและ กทม. และต้องเป็นไปตามมาตรการควบคุมโรค


สนามกีฬา เปิดในส่วนเล่นกีฬาหรือแข่งขัน แบบไม่มีผู้เข้าชม และต้องจำกัดผู้เข้าร่วมกิจกรรม เช่น นักกีฬา โค้ช ผู้ติดตาม ขอเน้นย้ำให้รวมกลุ่มกันน้อยที่สุด และจำเป็นต้องขออนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดและ กทม. โดยสามารถเปิดได้ถึง 20.00 น. รวมถึงเปิดสวนสาธารณะด้วย


อีกทั้งยังผ่อนคลายให้สามารถเดินทางข้ามจังหวัดได้ โดยให้ระบบขนส่งสาธารณะดำนเนินการได้ แต่จำกัดผู้โดยสารไม่เกิน 75%


ผู้ช่วยโฆษก ศบค. ย้ำว่ามาตรการคลายล็อกดังกล่าว เป็นการควบคุมโรคแนวใหม่ที่สมดุลกับการดำเนินชีวิตที่ปลอดภัยจากโควิด เพื่อลดผลกระทบด้านเศรษฐกิจและสังคม


โดยเน้นย้ำแนวทางปฏิบัติที่จะเป็นมาตรการองค์กร เรียกว่า COVID-FREE Setting รองรับการเปิดกิจการ กิจกรรมให้ปลอดภัยใน 3 ส่วน คือ 1. สิ่งแวดล้อม ต้องมีระบบระบายอากาศ มีการเว้นระยะห่าง 2. ผู้ประกอบการและพนักงานให้บริการ จะต้องฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ 2 เข็ม และตรวจ ATK ทุกสัปดาห์


และ 3. ลูกค้า จะต้องฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม หรือ มีผลตรวจ ATK เป็นลบ ภายใน 7 วัน หรือ หายจากโควิด เกิน 1 เดือน (แต่ไม่เกิน 3 เดือน)


ทั้งนี้ ศบค.ขอความร่วมมือให้ดำเนินการในพื้นที่นำร่อง หรือสถานที่ที่มีความพร้อม โดยเน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำกับติดตามอย่างเข้มงวด



คุณอาจสนใจ

Related News