ความคืบหน้ากรณีมีชาวบ้านในพื้นที่ ต.เมืองหลวง อ.ห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษ ว่ามีสองสามีภรรยา อ้างตัวเป็นพ่อปู่ฤาษีและร่างทรง ทำพิธีสวดมนต์ภาษาต่างดาว ช่วยรักษาโรคให้ชาวบ้าน พอผู้สื่อข่าวไปสอบถามสองสามีภรรยาที่อ้างตัวเป็นพ่อปู่และร่างทรง กลับไม่ยอมให้ข้อมูลและอ้างว่าเคยมีเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบแล้ว ไม่มีความผิดอะไร

    เมื่อวานนี้ (23 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวไปที่สำนักปู่ฤาษีอีกครั้ง พบว่าในสำนัก มีลูกศิษย์ 3 คน เป็นชาย 1 คน และหญิง 2 คน กำลังช่วยกันทำความสะอาดบริเวณสำนัก นำพระพุทธรูปและองค์ฤาษีมาตั้งบูชา โดยมีชาวบ้านที่ศรัทธามากราบไหว้ ลูกศิษย์ชาย ให้ข้อมูลว่า ก่อนหน้านี้ เคยดื่มเหล้าหนักจนไม่ทำงาน ต่อมาญาติแนะนำให้มาหาพ่อปู สวดมนต์และดื่มน้ำมะพร้าวปลุกเสก ทำให้เลิกเหล้าได้ ลูกศิษย์ชายคนนี้ยังอ้างว่า ญาติที่กรุงเทพฯ ติดโควิด-19 พอพ่อปู่ทราบเรื่อง ก็สวดมนต์ให้ จนญาติหายป่วยโดยไม่ต้องไปหาหมอ จึงเคารพศรัทธาพ่อปูอย่างมาก

    ส่วนลูกศิษย์ผู้หญิงบอกว่า ลูกศิษย์ใกล้ชิดจะได้รับการสักยันต์ เชื่อว่าจะทำให้แคล้วคลาดปลอดภัย เป็นเมตตามหานิยม โดยบทสวดมนต์ที่ฟังดูเหมือนภาษาแปลกๆนั้น เป็นภาษาเทพ

    ขณะเดียวกัน เมื่อวานนี้ (23 ส.ค.) นายสุเมธ ทรัพย์ประมูล ปลัดอำเภอห้วยทับทัน พร้อมด้วยตำรวจ สภ.ห้วยทับทัน ลงพื้นที่สำนักพ่อปู่ฤาษี เพื่อตรวจสอบเรื่องร้องเรียนของชาวบ้าน พบว่า บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านเช่า ราคาเดือนละ 500 บาท สัญญา 2 ปี ผู้อาศัย คือ นายปรีดา และนางละไม ทิศกระโทก สองสามีภรรยา อ้างว่าปฏิบัติธรรม สวดมนต์ไหว้พระ รับดูดวง สะเดาะเคราะห์ สักยันต์ แล้วแต่ผู้ที่จะเข้ามาตามจิตศรัทธา ไม่ได้หลอกลวงใคร เป็นความสมัครใจของชาวบ้าน แต่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบประวัตินางละไม พบว่า เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดร้อยเอ็ด ลงวันที่ 12 มิ.ย.63 ในข้อหา "ยักยอก" จึงนำตัวไปที่ สภ.ห้วยทับทัน เพื่อรอส่งมอบตัวนางละไม ให้กับตำรวจ สภ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด เจ้าของคดี เพื่อมานำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย

    ส่วนการตรวจสอบพฤติกรรมของสำนักพ่อปู่ฤาษี นายสุเมธ ทรัพย์ประมูล ปลัดอำเภอรับผิดชอบงานศูนย์ดำรงธรรมอำเภอห้วยทับทัน ระบุว่า เบื้องต้นไม่พบว่าเข้าข่ายทำผิดกฎหมาย แต่ฝากเตือนประชาชน อย่าหลงเชื่ออะไรง่ายๆ เพราะอาจถูกหลอกลวงเสียทรัพย์สินเงินทองได้

รับชมทางยูทูปที่ : https://youtu.be/N4QR25-Sq8M