ร้านนวดขอความเห็นใจ กิจการถูกปิดแต่ถูกทวงค่าเช่า วอนรัฐออกมาตรการที่ชัดเจน

สังคม

ร้านนวดขอความเห็นใจ กิจการถูกปิดแต่ถูกทวงค่าเช่า วอนรัฐออกมาตรการที่ชัดเจน

โดย panisa_p

5 ส.ค. 2564

416 views

เจ้าของกิจการร้านนวด ซึ่งเป็นกิจการที่มีคำสั่งให้ปิดตามมาตรการคุมโควิด-19 ตั้งแต่เดือนเมษายน ร้องขอความเห็นใจ หลังถูกผู้ให้เช่าพื้นที่ทวงค่าเช่าโหด พร้อมค่าปรับอีกวันละ 1,500 บาท และตัดไฟร้าน สะท้อนมาตรการรัฐทำให้ผู้ประกอบการรายเล็กต้องแบกรับภาระทั้งหมด


โดยร้านนวดแห่งนี้ ตั้งอยู่ในย่านประดิษฐ์มนูธรรม ลักษณะเป็นการเช่าที่ในตึก เจ้าของกิจการเปิดเผยกับทีมข่าวว่า ร้านต้องปิดตามคำสั่งของภาครัฐมาตั้งแต่เดือนเมษายน ทำให้สภาพคล่องของกิจการไม่ดี แต่ก็พยายามที่จะหาเงินมาจ่ายค่าเช่า เดือนละเกือบ 4 หมื่นบาท มีกำหนดจ่ายทุกวันที่ 5 ของเดือน แต่จนถึงเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ก็ยังคงไม่ได้เปิดร้าน ทำให้หาเงินมาจ่ายไม่ทัน จึงได้ต่อรองกับผู้ให้เช่าขอลดหย่อนค่าเช่า และขอผ่อนผันว่าจะทยอยจ่ายเกินกำหนด ซึ่งผู้ให้เช่าตกลงจะลดค่าเช่าให้ 8 พันบาท และให้ทยอยจ่ายล่าช้าได้


จนกระทั่งเมื่อวานนี้ (4 ส.ค.) ผู้ให้เช่าได้ส่งข้อความมาทวงถามค่าเช่าคงค้างส่วนที่เหลือ พร้อมกับค่าเช่าเดือนใหม่ (เดือน ส.ค.) โดยทางร้านได้โอนชำระส่วนหนึ่ง และบอกว่าจะโอนอีกส่วนหนึ่งให้ในวันที่ 5 ส.ค. ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของกำหนดชำระ แต่ทางผู้ให้เช่าบอกว่า หากไม่ชำระภายในวันนี้ จะเข้ามาตัดไฟร้าน และจะเปลี่ยนใจไม่ให้ส่วนลดหย่อน 8 พันบาท รวมทั้งคิดค่าปรับของเดือนที่ผ่านมาที่จ่ายล่าช้าไป 29 วัน วันละ 1,500 บาท รวมเป็นเงิน 4 หมื่นกว่าบาทด้วย


ทั้งนี้ เจ้าของร้านเล่าว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา ผู้ให้เช่ามีการใช้คำพูดเชิงข่มขู่ กล่าวหาว่าตนเป็นคนทำธุรกิจไม่เป็น เป็นคนเหนียวหนี้ งี่เง่า และขู่จะแจ้งความ บอกว่าถ้าไม่ไหวก็ให้ปิดร้านไป ซึ่งถ้าพูดในทางธุรกิจ ยอมรับว่าตนเองผิดที่ไม่สามารถหาเงินมาจ่ายได้ตามกำหนด แต่เป็นความผิดที่ไม่ได้อยากให้เกิด ไม่มีใครอยากเป็นคนไม่จ่ายเงิน แต่สถานการณ์มันบีบคั้นทุกคนหมดหน้าตัก ไม่ใช่ว่าไม่พยายามที่จะหาเงินมาจ่าย ตอนนี้ก็ให้ลูกออกจากโรงเรียนแล้ว จึงอยากได้รับความเห็นใจ และการช่วยเหลือกันมากกว่าในสถานการณ์วิกฤตเช่นนี้ที่ทุกคนต่างได้รับผลกระทบ


และล่าสุด วันนี้ (5 ส.ค.) เจ้าของร้านจึงตัดสินใจที่จะปิดร้านลงและคืนพื้นที่ เนื่องจากไม่สามารถแบกรับค่าใช้จ่ายต่อไปไหว เพราะร้านยังไม่สามารถเปิดได้ต่อไปอีกอย่างน้อย 1 เดือน และตนเองก็ไม่สบายใจที่จะเช่าพื้นที่นี้ต่อกับผู้ให้เช่าที่มีความเข้มงวด จึงตัดสินใจเข้ามาเก็บของออกจากร้าน และจะยอมโดนยึดเงินค่ามัดจำ 1 แสนบาท โดยสภาพร้านในวันนี้พบว่าถูกตัดไฟไปแล้ว


อย่างไรก็ตาม เจ้าของร้านได้สะท้อนกรณีนี้ไปยังมาตรการของภาครัฐด้วยว่า ส่วนหนึ่งที่ทำให้ผู้ให้เช่าไม่เห็นอกเห็นใจกัน ก็เนื่องจากรัฐไม่มีมาตรการที่ชัดเจนต่อผู้ให้เช่า เรื่องการลดหย่อนหรือพักชำระ มีเพียงคำสั่งปิดกิจการเท่านั้น ทำให้ผู้ประกอบการต้องแบกรับภาระทั้งหมด จนในที่สุดต้องปิดร้านลงวันนี้


ขณะที่ลูกจ้างของร้าน เปิดเผยความรู้สึกหลังจากร้านต้องปิดลงว่า รู้สึกมืดไปหมด ก่อนหน้านี้ที่ยังมีร้านก็ยังมีความหวังว่าจะได้กลับมาทำงานสักวันหนึ่ง การใช้ชีวิตจากที่ก่อนหน้านี้ร้านปิดก็แย่อยู่แล้ว พอไม่มีร้าน หนทางในการมีลมหายใจต่อไปก็ฝืดเคือง ยังไม่ต้องพูดถึงหนี้สิน แค่ชีวิตประจำวันในแต่ละวัน ก็ยังต้องคิดเลยว่าจะมีอะไรกิน

คุณอาจสนใจ

Related News