ที่ สมุทรปราการ เกิดเหตุสุดสลดกับหนูน้อย วัย 7 ขวบ นอนเฝ้าศพแม่ที่เสียชีวิตจากโควิด19 ในห้องพักอาคารชุดชื่อดัง ย่านถนนเทพารักษ์

เกิดเหตุเมื่อคืน (27 ก.ค.64) ตอน 4 ทุ่ม ร.ต.อ.นครินทร์ จำปานิล รองสารวัตรสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ชุดปฎิบัติการฉุกเฉินพิเศษตอบโต้โควิด19 และกู้ภัยฯ ไปตรวจสอบที่อาคารชุดชื่อดังแห่งหนึ่งใน ย่านถนนเทพารักษ์ หลังรับแจ้งมีผู้เสียชีวิต เป็นหญิง 1 ราย อยู่ที่ชั้น 8

ภาพที่สะเทือนใจเจ้าหน้าที่ เมื่อพบเด็กหญิง อายุ 7 ขวบ ลูกสาวของผู้ตาย นั่งร้องไห้อยู่หน้าอาคาร เจ้าหน้าที่จึงสอบถาม ทราบชื่อว่า น้องพลอย น้องเล่าว่า เมื่อเช้าตื่นนอนมาเรียกแม่ไปต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปให้ เพราะหิว แต่แม่ไม่ยอมตื่น เรียกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น และแม่ไม่ยอมคุยกับน้องเลยตั้งแต่คืนก่อนจนถึงตอนเช้า พอเจ้าหน้าที่ถามถึงคุณพ่อ น้องพลอยบอกว่า พ่อเก็บกระเป๋าออกจากบ้านไปก่อนหน้านี้ บอกว่าไม่สบายจะไปโรงพยาบาล

ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังสอบถามน้องพลอย ปรากฎว่า นายมนตรี พ่อของน้องพลอย ได้โทรศัพท์มาหาน้องพลอย เจ้าหน้าที่เลยซักถามข้อมูล ทราบว่า ก่อนหน้านี้ มีอาการเหนื่อยและไอ ทางบริษัทจึงส่งไปตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาล และผลตรวจออกมาว่า ติดเชื้อ จากนั้นในวันที่ 24 ก.ค. โรงพยาบาลได้ส่งรถมารับไปรักษาในฮอสพิเทล ย่านหัวลำโพง ส่วนภรรยา ก็มีอาการคล้ายกัน แต่ไปหาที่ตรวจหาเชื้อไม่ได้เลย และหลังจากตนเองไปกักตัว ก็พยายามโทรกลับมาบ้าน แต่ภรรยาไม่รับสาย จนกระทั่งมาทราบว่า ภรรยาเสียชีวิต ตอนนี้เป็นห่วงลูกสาวมาก ไม่รู้ว่าลูกจะติดเชื้อด้วยหรือไม่

เจ้าหน้าที่จึงต้องสวมชุดป้องกันการติดเชื้อ PPE ขึ้นไปตรวจสอบภายในห้องที่เกิดเหตุ โดยมีการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อตลอดเวลา ภายในห้องพบร่างของ นางมยุรี อายุ 43 ปี นอนเสียชีวิตอยู่บนที่นอน และปลายเท้ามีกระทะไฟฟ้าต้มสมุนไพรทิ้งไว้ ใกล้กันยังพบห่อยาหลากหลายชนิด ทั้งยาแก้ไอ ยาแก้อักเสพ ยาแก้ปวด และยาอื่นๆ อีกหลายห่อวางกองอยู่รวม ทั้งถ้วยชามที่วางกองอยู่ข้างๆ ซึ่งมีลักษณะคล้ายว่า ผู้เสียชีวิตน่าจะรู้ตัวว่าตัวเองติดโควิด จึงพยายามหายามากิน และสูดดมสมุนไพรต้ม เพื่อฆ่าเชื้อและกักตัวเองอยู่ในห้อง โดยให้ลูกสาวออกมานอนที่ด้านนอก ซึ่งเป็นห้องรับแขก เจ้าหน้าที่จึงได้ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ ก่อนนำร่างผู้เสียชีวิตบรรจุลงในถุงซิบล็อก 3 ชั้น นำส่งชันสูตรที่สถานบันนิติเวช

ส่วนน้องพลอย ล่าสุดทาง พม.สมุทรปราการ ได้เข้าให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น โดยมีทีมสาธารณสุขฯ ได้พาน้องไปตรวจหาเชื้อโควิด และผลออกมาว่าไม่พบเชื้อ ทางเจ้าหน้าที่จึงนำน้องมาแยกกักตัวที่บ้านพักเด็กฯ เพื่อเป็นการคุ้มครองสวัสดิภาพ ระหว่างที่พ่อน้องยังรักษาตัวอยู่

ด้านผู้ที่พักอาศัยอยู่ที่เดียวกับผู้ตาย บอกว่า ตนรู้สึกเสียใจที่ครอบครัวดังกล่าวไม่แจ้งเพื่อนบ้านให้ทราบว่า สามีไปกักตัวเพราะติดโควิด ถ้าแจ้งเพื่อนบ้านเราก็จะช่วยกันดูแล เพราะที่นี่เราช่วยเหลือกัน และคนในตึกนี้ก็มีแบบนี้อยู่เหมือนกัน แต่ตัวเขาและเราช่วยกันดูแลจนหายเป็นปกติ ส่วนมาตรการการป้องกัน ต้องรอคณะกรรมการนิติบุคคลประชุมกันก่อน ว่าจะทำอย่างไรต่อไป เพราะเคสนี้เป็นเคสแรกที่เจออย่างนี้