วานนี้ (27 ก.ค.) ทีมข่าวได้รับแจ้งว่าแคมป์คนงานก่อสร้างแห่งหนึ่ง ในซอยศรีนครินทร์ 42 เขตประเวศ กรุงเทพฯ มีคนงานทั้งชาวไทยและต่างด้าว 151 คน (คนไทย 57, เมียนมา 29, กัมพูชา 64, ลาว 1) โดยกลางเดือน ก.ค. มีญาติของคนงาน เป็นชายอายุ 82 ปี ได้มาอาศัยอยู่ในแคมป์ดังกล่าวเสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด

จากนั้นทางแคมป์ได้ตรวจหาเชื้อให้กับคนงานทั้งหมดด้วยชุดตรวจ Antigen Test Kit เบื้องต้นพบติดเชื้อ 102 คน ก่อนทำการแยกกักตัวอยู่ในแคมป์ หาซื้อยามากินกันเอง ไม่สามารถออกไป รพ.เพื่อตรวจซ้ำหรือเข้ารับการรักษาได้ เนื่องจากไม่มีเอกสารยืนยันผล

อีกทั้งแคมป์งานก่อสร้างถูกสั่งปิดตั้งแต่ปลายเดือนที่ผ่านมาห้ามเข้าออก ตามมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในกลุ่มแรงงานก่อสร้าง โดยคนงานบ้างคนที่ตรวจพบเชื้อเบื้องต้นนั้นเริ่มมีอาการไม่สบาย ไอ เป็นไข้ ไม่มีหน่วยงานไหนเข้าไปดูแลตรวจคัดกรองซ้ำหรือพาผู้ป่วยไปรักษา ทำให้คนงานที่ติดเชื้อ , กลุ่มเสี่ยงและคนที่ตรวจไม่พบเชื้อ ยังคงอาศัยปะปนกัน แม้ทางแคมป์จะให้แยกกักตัวก็ตาม

นางเสาวณีย์ อายุ 51 ปี คนงานชาวไทยและเป็นลูกสาวของผู้เสียชีวิต เผยว่า ตนเองและครอบครัวทำงานอยู่แคมป์ดังกล่าว คุณพ่อวัย 82 ปี แก่ชราได้มาพักอาศัยอยู่ด้วยเฉย ๆ ไม่ได้ทำงาน ต่อมาคุณพ่อเริ่มมีอาการป่วย มีโรคประจำตัวเป็นเบาหวาน ความดัน ปอด วัณโรค

วันที่ 18 ก.ค. จึงพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง หมอตรวจหาเชื้อพบว่าติดโควิด ปอดติดเชื้อ จึงต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล กระทั่งวันที่ 20 ก.ค. คุณพ่อได้เสียชีวิต และนำร่างไปฌาปนกิจในวันที่ 21 ก.ค.ขณะที่คนในครอบครัวของตน ซึ่งพักอยู่ห้องเดียวกันในแคมป์เสี่ยงสูง “พ่อไม่เคยไปไหนอยู่แต่ในห้อง ไม่รู้รับเชื้อได้อย่างไร”

ขณะที่ทางแคมป์คนงานไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะไม่มีหน่วยงานไหนมาตรวจคัดกรอง แจ้งสำนักงานเขตฯ แล้วก็เงียบหัวหน้าคนงานได้พูดคุยกับคนงาน งดนำเงินสำหรับซื้อวัตถุดิบมาประกอบอาหารเลี้ยงคนงาน 1 สัปดาห์ (4,000 บาทต่อวัน/ 7 วันเท่ากับ 28,000 บาท) ไปซื้อชุดตรวจ Antigen Test Kit มาตรวจหาเชื้อเบื้องต้นให้กับคนงานทั้งหมดในวันที่ 22 ก.ค. เป็นการตรวจกันเอง

สำหรับคนงานที่ผลตรวจเบื้องต้นเป็นบวก ทางแคมป์ให้แยกกักตัวอยู่ห้องใครห้องมัน ส่วนคนที่ไม่พบเชื้อ 49 คน ก็แยกออกไปอยู่บนตึกอีกฝั่ง ถ้ามีข้าวกล่องมาแจก คนที่ไม่ติดเชื้อจะนำข้าวไปวางไว้ แล้วให้คนที่ติดเชื้อมาหยิบไปแจกกันเองตามห้อง บางคนที่เป็นไข้อาการเริ่มดีขึ้น เดินเหินได้ ที่ผ่านมาไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาดูอาหารคนติดเชื้อ คนงานดูแลช่วยเหลือกันเอง มีเพียงบางหน่วยงานที่นำข้าวกล่องมาให้

นางเสาวณีย์ กล่าวต่อว่า ตนซื้อยาฟ้าทะลายโจร กระชายขาวมากิน ตั้งหม้ออบสมุนไพร เพื่อป้องกัน ว่าถ้าไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาช่วยและไม่มีคำแนะนำจากแพทย์ คนงานอาจติดเชื้อโควิดทางแคมป์

ตนกับสามีหวั่นติดเชื้อ ตอนกลางวันจะนำหมอนและเสื่อมาปูนอนพักผ่อนใต้ต้นไม้ข้าง ๆ แคมป์ ตั้งหมออบสมุนไพรเลี้ยงไก่ไปด้วย อยู่แต่ในแคมป์มันอึดอัดอุดอู้มีแต่เชื้อโรค อากาศไม่ถ่ายเท “เราก็กลัวจิตตกเหมือนกัน อยากให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขมาดูแล แต่นี่ไม่มีใครเข้ามาแนะนำอะไรเลย พวกเราต้องรักษากันเอง”

ด้านนายมาโนช อายุ 30 ปี หัวหน้าคนงาน กล่าวว่า ผลตรวจเบื้องต้นด้วย Antigen Test Kit พบติดเชื้อ 102 คน แต่ไม่มั่นใจผลตรวจ 100 เปอร์เซ็นหรือไม่ คนงานยังไม่มีอาการหนักแค่ไอเล็กน้อย ทั้งนี้ทางบริษัทแจ้งไปยังหน่วยงานต่างๆ ให้ส่งยามารักษา เพจต่างๆ ก็นำยาเข้ามาให้ ตนอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจเชิงรุก ออกเอกสารยืนยันผลเพราะถ้าไม่มีเอกสารยืนยันผลตรวจ ก็ไม่สามารถเข้ารับการรักษาที่ไหนได้ เคยแจ้งไปสำนักงานเขตฯ แต่เรื่องเงียบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสังเกตคนงานบางส่วน ไม่ใส่หน้ากากอนามัย คนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงหรือแม้กระทั่งคนที่ตรวจพบติดเชื้อ ออกจากห้องพักมาเดินเล่นภายในแคมป์ บางคนเดินออกมานอกแคมป์ซึ่งเป็นพื้นที่ชุมชน เนื่องจากพื้นที่โดยรอบไม่มีกำแพงหรือสังกะสีปิดกั้นมิดชิด คนงานสามารถเดินออกมาได้สบาย ๆ แม้จะเจ้าหน้าที่ทหารนั่งเฝ้าอยู่หน้าแคมป์ก็ตาม

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/_GKlKt8Q3Zc