จากกรณีน้องออมสิน และน้องกระปุก อายุ 11 ขวบ และ 9 ขวบ สองพี่น้องที่ต้องสูญเสียคุณแม่ ติดเชื้อโควิด เสียชีวิตในห้องเช่า ย่านบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งก่อนเสียชีวิตก็สั่งเสียลูกว่า อย่าไปกับใคร ให้ไปอยู่บ้านเด็กกำพร้า ต่อมาพบว่าน้องสองคนติดโควิด รวมทั้งลุงและป้าข้างห้องที่คอยช่วยเหลือก็ติดเชื้อด้วย

ช่วงเช้าวานนี้ เจ้าหน้าที่ พม.ดำเนินการประสานรพ.บางพลี และผู้เกี่ยวข้อง รับน้องออมสิน น้องกระปุก และ ลุง ป้า ข้างห้อง ไปรักษาที่รพ.บางพลี โดยน้องทั้งสองคน บอกตอนที่รอขึ้นรถ รพ. บอกว่ากลัวเล็กน้อย ที่ต้องไปรักษาตัวในรพ. เก็บกระเป๋าเสื้อผ้า โดยน้องออมสินบอกกับทีมข่าวว่า ไม่ได้ต้องการอะไรมาก และไม่มีกางเกงใส่ มีคนละตัว เพราะน้องกำลังโตใส่ตัวเดิมไม่ได้ และกางเกงที่มีก็ยังไม่ได้ซักอยู่ปะปนกับเสื้อผ้าแม่

ก่อนน้องจะไปรพ.น้องบอกกับทีมข่าวว่า หากหนูรักษาหายแล้ว ไม่มีที่ไปก็จะกลับมาบ้านเช่า หนูดูแลน้องได้ แต่หนูไม่มีเงิน หากได้ทำงานก็มีเงินเลี้ยงน้อง

เมื่อถึงรพ.บางพลี เจ้าหน้าที่ก็ตรวจร่างกาย และให้พักรักษาในห้องเดียวกันกับลุงป้าข้างบ้าน เพราะทุกคนติดเชื้อเหมือนกัน โดยแพทย์ทำการเอ็กซ์เรย์ปอด พบว่าของน้องออมสินและน้องกระปุก และคุณป้า อาการปกติ เป็นผู้ป่วยสีเขียว แต่ของคุณลุง ปอดเริ่มมีฝ้าเล็กน้อย แพทย์ให้กินยาตามอาการ และจะดูแลทั้งหมดจนหายดี

ต่อมาช่วงบ่าย ทีมข่าวได้รวบรวมเงินช่วยเหลือจากผู้ใจบุญ และทีมรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ซื้อชุดชั้นใน เสื้อผ้า ของใช้ส่วนตัว แปรงสีฟัน ยาสระผม สบู่ ไปให้น้องและลุงป้า พร้อมกับขนมเบอเกอรี่ พร้อมกับเงินช่วยเหลือเบื้องต้น

น้องออมสินและน้องกระปุก ดีใจมาก บอกว่า ขนมแบบนี้ เพิ่งเคยได้กินเป็นครั้งแรก และไม่เคยได้เสื้อผ้าหรือของใช้แบบนี้

พอทีมข่าวบอกว่า วันนี้จะเผาศพคุณแม่ น้องบอกว่าฝากบอกแม่ว่าหนูรักแม่มาก แม่ไม่ต้องห่วงหนู ห่วงน้อง และน้องก็อัดคลิป ขอบคุณทุกคนที่ช่วยเหลือ

ในส่วนของลุงกับป้าที่ช่วยเหลือน้องและแม่ บอกว่าหลังจากรักษาตัวแล้ว ก็อาจจะต้องตกงานเพราะทำงานรับจ้างและขาดงานไปนาน ต้องมารักษาตัว พอรักษาหายก็คงต้องหางานทำใหม่ แต่จะไม่ทิ้งเด็กๆทั้งสองคน

ขณะที่ช่วงเย็น เจ้าหน้าที่นำศพของคุณอาภาภรณ์ แม่ของน้องออมสิน น้องกระปุก ทำพิธิฌาปนกิจ ที่วัดบางพลีใหญ่กลาง โดยมีนายอำเภอบางพลี ผอ.รพบางพลี และตัวแทนร่วมทำพิธีฌาปนกิจ คุณแม่แทนเด็กๆ

ในงานมีน้านี ซึ่งเป็นญาติคนเดียวของ น้องออมสินและน้องกระปุก มาร่วมงานศพ โดยน้านี เปิดใจว่า ผู้ตาย เป็นพี่ ซึ่งเป็นลูกพ่อเดียวกันแต่คนละแม่ และไม่ค่อยได้ติดต่อกัน แต่ทั้งแม่และเด็ก มาขอใช้ทะเบียนบ้านด้วย ที่ผ่านมาก็ต่างคนทำมาหากินไม่ค่อยได้ติดต่อ ไม่เคยรู้ว่า น้องออมสิน และน้องกระปุก หลานๆ ลำบากขนาดนี้ รู้แค่ว่าอยู่ห้องเช่า แต่ไม่รู้ที่ไหน ที่ผ่านมาแม่และหลานๆจะมาหาที่บ้าน ก็ให้เงินช่วยเหลือบ้างเล็กน้อย และคอยช่วยเหลือห่างๆ นานๆแม่ของเด็กจะทักมาหา และขอความช่วยเหลือเรื่องเงิน

พอทราบข่าวก็หดหู่ใจ และน้องออมสินและน้องกระปุก ไม่มีญาติที่ไหน มีแค่ตนกับคุณยาย แต่คุณยายก็ไม่สะดวกที่จะดูแล ซึ่งตนก็ไม่สะดวก เพราะมีภาระ ขอยืนยันว่าไม่ได้เป็นการปฏิเสธการช่วยเหลือ แต่ไม่มีกำลัง จึงขอให้ พม.รับดูแล และตนจะคอยร่วมดูแลและไปเยี่ยมเด็กๆ สังคมอาจจะมองว่าตนใจดำแต่ไม่ใช่ หากมีกำลังพอก็จะดูแลเด็กๆได้ แต่เมื่อประเมินแล้วหากมี พม.ดูแลจะดีกว่า

ส่วนชีวิตของน้องออมสิน น้องกระปุกและคุณแม่ 3 คนรักกันมาก ไม่เคยห่างจากกัน เด็กๆ สองคนเป็นเด็กร่าเริง เวลาไปหาที่บ้านก็อยากกินอยากได้อะไรตนก็ช่วย และมีอยู่ครั้งหนึ่งที่สะเทือนใจ คือวันที่แม่ของเด็กๆแชทไปหา บอกว่าพอจะมีเงินมั้ย อยากจะขอเงินซื้อปลาทูให้เด็กๆ กิน ลูกอยากกินปลาทอด แต่แม่ไม่มีเงินพอจะซื้อปลาทู

คุณนีบอกว่า จุกอกกับประโยคนี้ ซึ่งตัวคุณแม่ของน้องๆ เขาก็รักลูกมาก และหวงลูก แม้ว่าจะลำบาก จะไม่มีกินแต่เขาไม่เคยให้ลูกต้องอด จะหาทำงาน ทำทุกอย่างเพื่อดูแลลูก

จากนี้เมื่อเด็กๆไม่มีแม่ดูแลแล้ว ตนในฐานะน้าก็จะดูแลห่างๆร่วมกันกับพม. และได้เซ็นเอกสารมอบอำนาจในการดูแลเด็กๆให้กับพม.จังหวัดสมุทรปราการ ช่วยดูแล

เมื่อวานตอนช่วงงานศพ ทีมข่าวเราก็โทรวีดีโอคอลหาน้องออมสินและน้องกระปุก ให้ได้คุยกับน้านี พอทั้งสองคนเห็นน้านีก็บอกว่า หนูโอเค หนูจะรักษาตัวให้หาย จะดูแลน้อง

ในส่วนของการดูแลเด็กๆเมื่อวานนี้ก็มีกระแสข่าวว่า คุณชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ประธานสภาหอการค้า จังหวัดสมุทรปราการ จะรับอุปการะน้องออมสินและน้องกระปุก เรื่องนี้ คุณสุภชา พรหมศร หัวหน้าบ้านพักเด็ก และครอบครัว จ.สมุทรปราการ เปิดเผยว่า กรณีนี้ ยังไม่มีการแจ้งมาเป็นทางการหรือ คุณชนม์สวัสดิ์ ประสานมาเอง มีเพียงนักการเมืองท้องถิ่นแจ้งมา ซึ่งขั้นตอนการดูแลเด็กทั้งสองคนนั้นไม่ใช่ใครก็จะรับไปดูแลได้ทันที แต่ทุกอย่างต้องทำตามขั้นตอน

โดยใครที่แจ้งความประสงค์จะอุปการะน้อง ทางพม.ก็จะสำรวจ ไปเยี่ยมบ้านถ้าจะรับแบบครอบครัวอุปถัมภ์ หรือครอบครัวทดแทน ถ้ามีความพร้อมในการดูเด็กเราก็ยินดี แต่จะต้องถามเด็กด้วย และจะมีการทดลองเลี้ยง 3 เดือน 6เดือนและ1ปี เพื่อแระเมินเป็นระยะ หากมีความพร้อมและดูแลเด็กได้ เด็กๆเต็มใจ ทางพม.ก็ยินดี

ส่วนการเปิดรับบริจาคนั้น ยืนยันว่า ยังไม่มีการเปิดรับบริจาคใดๆทั้งสิ้น โดยรอเด็กหายก่อน ก็จะพาไปเปิดบัญชี โดยมีพม. เด็ก และทางอำเภอเป็นคนคอยดูแลบัญชีนี้ ขอให้ผู้ใจบุญรอก่อน และหากใครนำเด็กไปแอบอ้างขอรับบริจาคก็อย่าหลงเชื่อ

ส่วนที่หลายคนกังวลว่า หากเด็กๆหายป่วยใครจะมารับ คุณศุภชา บอกว่า พม.จังหวัดจะไปรับจากรพ.มาดูแล ที่บ้านพักเด็กจังหวัดสมุปราการ จะดูแลทั้งการอยู่อาศัย การเรียน และสภาพจิตใจ จากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนการประสานเครือญาติในการรับดูแลจะอุปการะเด็ก หรือไม่ แต่หากญาติไม่พร้อม ทา งพม.จังหวัดก็รับดูแลเด็กต่อไป และหากมีผู้ใจบุญจะขอรับอุปการะ ก็ทำตามขั้นตอนดังกล่าว ยืนยันว่า ไม่ต้องห่วงเด็กๆ พม.จังหวัดสมุทรปราการ จะดูแลเด็กๆจนถึงอายุ 18 ปี

ด้านนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เผยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับเด็กทั้ง 2 คน เป็นนักเรียนทุนมูลนิธิราชประชานุเคราะห์