เวทนา...'ยายหงษ์' วัย 76 ติดโควิดอยู่ห้องลำพัง ถามหาลูกสาวทุกวัน ยังไม่รู้ลูกติดเชื้อสิ้นใจแล้ว

สังคม

เวทนา...'ยายหงษ์' วัย 76 ติดโควิดอยู่ห้องลำพัง ถามหาลูกสาวทุกวัน ยังไม่รู้ลูกติดเชื้อสิ้นใจแล้ว

โดย thichaphat_d

26 ก.ค. 2564

323 views

เมื่อวานนี้ (25 ก.ค.) ทีมข่าวได้รับแจ้งจากคุณยุ ว่าเพื่อนของตนคือ คุณนก อายุ 42 ปี อาศัยอยู่กับนางหงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 76 ปี ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ที่ 1 ต.นาดี อ.เมือง จ.สมุทรสาคร โดยที่คุณนกติดโควิดเสียชีวิต เมื่อวันที่ 21 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยที่แม่ของคุณนก แก่ชรามีอาการท้องเสีย ไม่มีแรง อ่อนเพลีย ไอ เจ็บคอ ยังไม่รู้ว่าลูกสาวตายและเผาไปแล้ว


ต่อมาวันที่ 24 ก.ค. ทราบผลตรวจพบว่าแม่ของคุณนก ก็ติดเชื้อโควิดเช่นกัน อยู่ในห้องเช่าลำพังไม่มีญาติ โดยครอบครัวเจ้าของห้องเช่ามาดูแลแทน อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับตัวคุณยายไปรักษาและดูแล โรงพยาบาลฯ ที่เป็นผู้ตรวจยังไม่สามารถรับผู้ป่วยเข้ารับการรักษาได้ เพราะยังไม่มีเตียงว่าง


คุณยุ เล่าว่า ตนเป็นเพื่อนกับคุณนก (ผู้ตาย) รับรู้มาโดยตลอดว่าเพื่อนคนนี้จะอาศัยอยู่ด้วยกันกับแม่เพียง 2 คนชีวิตค่อนข้างรันทด ตนขาดการติดต่อกับคุณนก ไปนาน เข้าใจว่าน่าจะมีการงานพอเลี้ยงตัวเองกับแม่ได้ กระทั่งวันที่ 21 ก.ค. เจ้าของห้องเช่าที่เพื่อนอาศัยอยู่ ติดต่อมาหาตนแจ้งว่าคุณนก ได้เสียชีวิตแล้วจากโควิด ตนตกใจมาก ที่ผ่านมาทางเจ้าของห้องเช่าจะทราบกันดีว่า คุณนกเป็นโรคไต ต้องไปฟอกไตตลอดเวลา


คุณยุ เล่าต่อว่า คุณนกไม่เคยบอกความทุกข์สุขอะไรของตนเองให้เพื่อนหรือแม่ฟัง แม่แค่รู้ว่าเป็นโรคไต ทั้งนี้ตนได้คุยกับเพื่อนของคุณนก ที่ทำงานด้วยกัน ทราบว่าเพื่อนร่วมงานของนกซึ่งนั่งทำงานด้วยกันติดโควิดในช่วงวัน 5 ก.ค. คุณนก รู้ตัวว่าตนเองเสี่ยงจึงกักตัวอยู่ในห้องเช่า คุณแม่ก็อยู่ในห้องนั้นด้วยและคุณนก ก็ไม่ได้บอกแม่ว่าตัวเองเสี่ยงสูง


กระทั่งวันที่ 11 ก.ค. คุณนก เดินทางไปโรงพยาบาลฯ เพื่อฟอกไต ทางโรงพยาบาลได้ตรวจหาเชื้อพบว่าคุณนก ผลเป็นบวกและทำการรับรักษาที่โรงพยาบาลดังกล่าว ซึ่งระหว่างที่คุณนก รักษาตัวนั้นไม่ยอมบอกใครเลยว่าตัวเองติดโควิด ยังบอกกับเจ้าของห้องเช่าว่า “สบายดียังโอเคช่วยรบกวนดูแลหาข้าวหาน้ำให้แม่หน่อย” คุณแม่ก็ไม่รู้ว่าลูกสาวติดโควิด


ระหว่างที่คุณนก รักษาตัวอยู่โรงพยาบาลนั้น คุณนกจะโทรศัพท์มาคุยกับมาทุกวันเช้าเย็น แต่วันที่ 19-20 ก.ค. คุณนกไม่ได้ติดต่อใครเลย จนวันที่ 21 ก.ค. โรงพยาบาลติดต่อมาหาเจ้าของห้องเช่าว่าคุณนก เสียชีวิตแล้วจากการติดเชื้อโควิด ขณะที่เจ้าของห้องเช่าพยายามติดต่อหาญาติ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ที่อยู่ตามบัตรประชาชนก็เป็นที่อยู่บ้านเพื่อนสมัยเรียนมัธยมปลาย


หลังจากที่กลุ่มเพื่อนทราบข่าวการเสียชีวิตของคุณนก ก็ช่วยตามหาญาติ และไม่รู้ว่าแม่วัย 76 ปีของคุณนก จะติดเชื้อโควิดด้วยหรือไม่ ตนพยายามติดต่อหน่วยงานต่าง ๆ ให้เข้ามามาดูแลตรวจหาเชื้อให้กับแม่ของคุณนก ตนเองสงสัยว่าคุณนก อาจรับเชื้อจากโรงพยาบาลหรือไม่เพราะเขาเดินทางไปฟอกไตประจำ


หลังคุณนก เสียชีวิตทิ้งให้คุณแม่อาศัยอยู่ในห้องเช่าเล็ก ๆ ลำพังคนเดียว หูไม่ค่อยได้ยิน เดินไม่ได้ 4-5 เดือนแล้วพอช่วยเหลือลุกนั่งเองได้ ต้องใส่แพมเพิสตลอดเพราะมีอาการท้องเสีย ต่อมาช่วงบ่ายวันศุกร์ ที่ 23 ก.ค. เจ้าหน้าที่นำรถตวจจเคลื่อนที่มา Swab ให้กับคุณแม่ เป็นจังหวะเดียวกับที่ตนเดินทางไปเยี่ยมอาการคุณแม่พอดี ตนเองใส่ชุด PPE อุปกรณ์ป้องกัน เข้าไปดูคุณแม่ ในห้อง


ตนพยายามติดต่อหาญาติอีกครั้งพร้อมประสานมูลนิธิต่าง ๆ จนวันที่ 24 ก.ค.เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลฯ โทรมาแจ้งว่าผลตรวจของคุณแม่ เป็นบวกติดเชื้อโควิด แต่ยังไม่สามารถรับผู้ป่วยเข้ารับการรักษาได้ เพราะเตียงไม่ว่าง สภาพที่ตนเห็นเป็นห่วงสงสารคุณแม่ มาก ๆ อยากให้คุณแม่ ได้รับการรักษา จนถึงตอนนี้ยังประสานหาเตียงไม่ได้ ตนกังวลใจเพราะคุณแม่ เป็นผู้ป่วยกลุ่มสีเหลือง


ทางคุณยุ ตอนนี้กักตัวอยู่บ้านพักย่านลาดพร้าว กรุงเทพ เผยทางโทรศัพท์ว่า “พวกเรายังปกปิดเรื่องการเสียชีวิตของลูกสาวเขา ถ้าคุณแม่รู้ความจริงเชื่อว่าจะรับไม่ได้ เพราะทั้งชีวิตเขาอยู่กัน 2 คน แม่ลูก วันนี้ลูกเขาได้จากไปแล้ว วันที่ตนไปเจอคุณแม่ คุณแม่พูดว่าช่วยนกหน่อย นกไม่สบายหนักมาก ได้ฟังคุณแม่พูดคำนี้ ทำให้กลั้นน้ำตาไม่อยู่พยายามบอกกับคุณแม่ว่า ตอนนี้นกฟอกไตอยู่ รักษาตัวอยู่ยังไม่มีเวลาโทรหาแม่ ไม่อยากบอกว่าลูกเขาเสียชีวิตแล้วไม่อยากให้สะเทือนใจ”


พร้อมระบุว่า อยากให้ใครก็ได้รับคุณแม่ไปดูแล ตอนนี้เหมือนอยู่ตัวคนเดียว อยากให้คุณแม่ได้มีชีวิตอยู่ต่อไปได้อยากทำให้เพื่อนอนตายตาหลับ ตนโกรธเพื่อนที่ไม่ยอมติดต่อ ทุกครั้งที่คุยกับเพื่อนในกลุ่มนกจะบอกว่า “สบายดี” ทั้งที่สภาพความเป็นอยู่ของเขาไม่ได้อยู่สบายเลย นกอยู่กับคุณแม่ 2 คน อย่างลำบากมาก เข้าใจว่านกต้องเก็บเงินไว้รักษาตัวเองและดูแลคุณแม่


ส่วนร่างของนกหลังจากเสียชีวิต ทางโรงพยาบาลได้นำไปเผาทันที กระดูกยังฝากเก็บไว้ที่วัด ไม่มีญาติไปรับ ทางวัดบอกจะทำบุญให้สิ้นเดือนนี้และจะนำอัฐิไปลอยอังคารให้ “มันรู้สึกหดหู่ใจที่แม่ยังไม่รู้ว่าลูกสาวของตัวเองตายไปแล้ว”


ต่อมาตนได้ติดต่อญาติได้เป็นหลานของคุณแม่อยู่ที่ จ.ลำพูน และ จ.เชียงใหม่ แต่ให้คำตอบว่าไม่สามารถเดินทางมาได้ เพราะอยู่ในช่วงสถานการณ์โควิด ยินดีจะรับไปดูแลแต่ขึ้นอยู่กับคุณแม่จะไปหรือไม่ เพราะต่างฝ่ายขาดการติดต่อกันนานแล้ว


ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ได้คุยกับนางสุวรรณา ผู้ดูแลห้องเช่า เผยว่า ระหว่างที่คุณนก รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจะโทรมาหาทุกเช้าให้หาข้าวและน้ำให้คุณแม่หน่อย ตนและญาติซึ่งดูแลห้องเช่าด้วยกัน จะใช่ชุด PPE คอยนำข้าวน้ำเข้าไปให้ทุกวัน ๆ 3 มื้อ ดูแลเป็นเป็นญาติคนหนึ่งทั่งช่วยถูห้อง ล้างจาน ซักเสื้อผ้า จากนั้นประมาณวันที่ 19 ก.ค. คุณนก ขาดการติดต่อไป


กระทั่งมาทราบว่าเสียชีวิตจากโควิดตอนโรงพยาบาลโทรมาแจ้ง ทางโรงพยาบาลบอกว่าไม่สามารถติดต่อญาติได้ตนจึงบอกให้โรงพยาบาลจัดการเรื่องศพไปเลย “เสี่ยงก็ต้องยอมดูแล จะปล่อยให้คนแก่ตายไม่ได้ รู้สึกหดหู่เพราะคุณยายยังไม่รู้ว่าลูกสาวเสียชีวิตแล้ว และยังไม่รู้ว่าตัวเองติดโควิดด้วย เราไม่กล้าบอก ไม่อยากให้ยายเสียใจ กลัวช็อก”


พยายามบอกยายว่าลู กสาวอาการหนักหมอไม่ให้คุย เพื่อให้ยายสบายใจ ให้กำลังใจบอกให้ยายสู้ ๆ กินข้าวเยอะ ๆยายจะถามหาลูกสาวทุกวัน และถามว่า “โรงพยาบาลโทรมามั้ย” ตนก็ตอบไปว่า “ไม่ได้โทรมา” ทุกครั้งที่ตนได้คุยกับคุณยายเรื่องลูกสาว น้ำตาก็ไหลออกมา ทำให้เรานึกถึงพ่อแม่ สงสารยาย อยากให้คนใจบุญมาช่วย ติดต่อไปแล้วจะไม่มีหน่วยงานไหนติดต่อกลับมา


ผู้ดูแลห้องเช่า กล่าวต่อว่า ตนลองถามยายว่า “ถ้าไม่มีลูกสาวยายจะอยู่ได้มั้ย” ยายตอบด้วยน้ำเสียงเบา ๆ ว่า “อยู่ไม่ได้” ตนจึงไม่กล้าบอกความจริงกับยาย ไม่รู้จะทำอย่างไร สงสารและช่วยเหลืออย่างเต็มที่เท่าที่ช่วยได้ อยากให้มีคนช่วยดูแลยาย ญาติหรือหน่วยงานไหนก็ได้รับไปดูแล เพราะตนก็ไม่สามารถดูแลได้ตลอดเวลา อย่างไรก็ตามตนและพี่ชายซึ่งดูแลห้องเช่าด้วยกันได้ทำการตรวจหาเชื้อแล้วผลเป็นลบ และจะไปตรวจซ้ำ


ขณะที่เมื่อวานนี้ (25 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ พม.จังหวัดสมุทรสาคร และกาชาดจังหวัดสมุทรสาคร เข้าไปประเมินสอบถามอาการ ดูแลความเป็นอยู่ให้กับคุณยาย นำถุงยังชีพ แพมเพิสไปมอบให้ แต่ไม่มีความชัดเจนว่าจะช่วยประสานหาเตียงพาคุณยาย ไปรักษา ได้หรือไม่อย่างไร ระบุเพียงว่าเคสนี้ทางจังหวัดระทราบแล้ว ซึ่งทางผู้ดูแลห้องเช่าแจ้งกับจนท.ว่าอยากให้รีบพาไปพารักษาหวั่นเชื้อลงปอด



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/WFBWoIrfiSM


คุณอาจสนใจ