นาทียื้อชีวิต ยายติดโควิด อาการหนัก ไม่มี รพ.รับรักษา จนท.ช่วยปั๊มหัวใจสุดความสามารถ สุดท้ายเสียชีวิต

สังคม

นาทียื้อชีวิต ยายติดโควิด อาการหนัก ไม่มี รพ.รับรักษา จนท.ช่วยปั๊มหัวใจสุดความสามารถ สุดท้ายเสียชีวิต

โดย thichaphat_d

24 ก.ค. 2564

249 views

เมื่อวานนี้ (23 ก.ค.) นายกำพล (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี อาศัยอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ย่านสายไหม กทม. เปิดเผยว่าก่อนหน้านี้คนในครอบครัว 7 คน ประกอบด้วยตนเอง / พ่อ อายุ 60 ปี / แม่ อายุ 54 ปี / ภรรยา อายุ 34 ปี /ลูกชายคนโตอายุ 16 ปี / ลูกชายคนกลาง อายุ 8 ปี / ลูกชายคนเล็ก อายุ 3 ขวบ ได้ไปตรวจหาเชื้อโควิด ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เมื่อวันที่ 18 ก.ค. ทราบผลติดเชื้อ 5 คน ตนเองกับลูกชายคนโตผลเป็นลบ


ทั้งหมดรักษาตัวตามอาการอยู่ที่บ้าน แรก ๆ คุณพ่ออาการแย่แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก วัดค่าออกซิเจนปลายนิ้ว 80-90 ส่วนอาการของคุณแม่เป็นปกติ วัดค่าออกซิเจนในเลือดก็ปกติ ส่วนภรรยาและลูก ๆ ที่ติดเชื้อมีอาการไอครั่นเหลือครั่นตัว


ต่อมาวันที่ 22 ก.ค. เวลาประมาณ 3 ทุ่ม อาการของคุณแม่เริ่มทรุด ลุกไม่ขึ้น เลือดออกปาก ตนตกใจไม่รู้จะโทรแจ้งหน่วยงานไหน จึงโทร 191 เจ้าหน้าที่ช่วยประสาน อปพร.เขตสายไหม ถ่ายคลิปขณะคุณแม่ ซึ่งนอนอยู่บนที่นอน ส่งให้เจ้าหน้าที่ประเมินอาการ ขนาดนั้นคุณแม่ ยังตอบสนองพูดคุยได้ -ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเจ้าหน้าที่รีบนำออกถังออกซิเจนเข้ามาช่วย หลังจากใส่สายออกซิเจนเสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่กลับออกจากบ้านไปประมาณ 1 ชั่วโมง ประมาณ 5 ทุ่ม ของวันที่ 22 ก.ค.คุณแม่อาการทรุดหนัก ค่าออกซิเจนในเลือดตกเหลือ 20 กว่า ๆ


จากนั้นเจ้าหน้าที่เพจ สายไหมต้องรอด และ อปพร.เขตสายไหม ย้อนกลับมาที่บ้านอีกครั้งเพื่อช่วยเหลือคุณแม่


พยายามติดต่อหน่วยงานต่าง ๆ ประสานโรงพยาบาล แต่กลับถูกปฏิเสธรับการรักษาหมด โดยก่อนที่อาการของคุณแม่ จะทรุดหนัก กินข้าวไม่ได้ กระสับกระส่าย ทุรนทุรายนอนพลิกไปมา ตนรับรู้ได้ว่าคุณแม่ไม่ไหวแล้ว แต่แม่ไม่พูดก่อนที่คุณแม่จะนอนนิ่ง หัวใจเต้น 200 กว่า


เจ้าหน้าที่กู้ชีพฯ ใส่ชุด PPE เข้าไปในบ้านพยายามช่วยกันปั๊มหัวใจให้คุณแม่ เพื่อยื้อชีวิต ญาติพยายามโทรติดต่อโรงพยาบาล แต่ปฏิเสธรับรักษา ทั้งที่โรงพยาบาลอยู่ห่างจากบ้านไม่เกิน 3 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่หน่วยงานหนึ่งพูดผ่านสายโทรศัพท์ว่า “กำลังเร่งประสานให้โดยด่วน” แต่เจ้าหน้าที่ที่เข้าไปช่วยยื้อชีวิต บอกว่า “ตอนนี้ไม่ทันแล้ว คุณแม่สิ้นลมหายใจแล้ว” ปั๊มหัวใจ นาน 15 นาที ไม่มีสัญญาณชีพ


ขณะที่ลูกสะใภ้ยืนร่ำไห้ บอกว่า “ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก อยากให้ช่วยรับรักษาคุณพ่อ บ้าง ไม่อยากเห็นใครในบ้านเป็นอย่างนี้ เพราะไม่มีการรับรักษา ไม่มีการช่วยเหลือ คุณแม่ถึงได้เป็นอย่างนี้ ประชาชนจะอยู่อย่างไร ลูก ๆ อยู่บนบ้านยังไม่รู้ว่าคุณย่าเขาเสีย” -นายกำพล เผยว่า วันที่ 22 ก.ค.“ก่อนที่คุณแม่จะทรุดหนัก ได้พูดเหมือนสั่งเสียว่าไม่ไหวแล้วฝากดูแลหลานด้วย คุณแม่รักหลานคนเล็กมาก เพราะเลี้ยงมาตั้งแต่เล็ก ย่าไปไหนหลานคนนี้ก็จะไปด้วยตลอด พากันไปเดินในหมู่บ้านด้วยกันทุกวัน คุณแม่เป็นห่วงหลานมาก”


นายกำพล เผยกับผู้สื่อข่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “ผมดูแม่ชักคอพับตายต่อหน้า ไม่มีหน่วยงานไหนช่วยแม่ผมได้เลย โรงพยาบาลก็ปฏิเสธ ไม่ถามไทยอาการ ตอบกลับเพียงว่าไม่รับรักษา ตนติดต่อทุกวิถีทางแล้ว จนแม่ขาดใจตายต่อหน้าผม มันสะเทือนใจ อย่างน้อยถ้ารับแม่ไปรักษาตายอยู่ที่โรงพยาบาลจะไม่เสียใจขนาดนี้ มันจุกอก พูดไม่ออกต้องเห็นแม่ตายต่อหน้าต่อตา ทั้งที่เราช่วยอะไรแม่ไม่ได้เลย แม่ตายตาไม่หลับคงเป็นห่วงหลาน”


ขณะที่คุณพ่อ อยู่ข้าง ๆ เห็นคุณแม่ชักตาย นั่งเศร้าอยู่คนเดียวเพราะทำใจไม่ได้ ตอนนี้ตนกลัวคุณพ่อ จะทรุดหนักลงเป็นอะไรไปอีกคน “เหตุการณ์แบบนี้ไม่น่าเกิดขึ้นกับครอบครัวของผม คุณแม่จากไปไวมาก เพิ่งตรวจพบเชื้อเมื่อวันอาทิตย์ ที่ผ่านมานี่เอง แม่มีโรคประจำตัวเป็นไทรอยด์ เบาหวาน ความดัน โรคหัวใจ ”


ลูกชายของผู้ตาย ยังบอกอีกว่า “พอแม่เสียชีวิต หน่วยงานต่าง ๆ ก็ติดต่อส่งยามาให้ ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ตอนที่แม่ของตนมีลมหายใจอยู่ ไม่มีหน่วยงานไหนยื่นมือมาช่วยเหลือเลย ถ้าแม่ของผมได้ยาไวอาจจะไม่ตายก็ได้” หากไม่มีเตียงหรือไม่มีที่ไหนรับรักษาคุณพ่อ ภรรยา และลูก ๆ ของตน ส่งยาฆ่าเชื้อมาให้กินที่บ้านก็ยังดี


นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ช่วย ส.ส. เขตสายไหม ซึ่งลงพื้นที่นำถังออกซิเจนเข้าไปช่วย เผยว่า ได้รับแจ้งช่วงบ่ายวันที่ 22 ก.ค.ว่าบ้านหลังดังกล่าวติดเชื้อยกบ้าน จึงได้ไปตรวจสอบนำถังออกซิเจนไปใส่ให้กับคุณยาย ตอบสนองได้ดีขึ้น ช่วงเย็นของวันเดียวกันอาการแย่ลง จึงเครื่องผลิตออกซิเจนเข้าไปเปลี่ยน คิดว่าอาการคุณยายจะดีขึ้น


ประมาณ 3 ทุ่ม ได้รับแจ้งว่าอาการคุณยาย ทรุด ชีพจรเต้นผิดปกติ ประเมินอาการต้องรีบนำส่งโรงพยาบาล ใช้เวลาประสานนาน 2 ชั่วโมง แต่ไม่มีหน่วยงานไหนมารับตัวไปรักษา โทรสานด่วนต่าง ๆ ก็ไม่มารับ ติดต่อโรงพยาบาลแห่งหนึ่งฯ ก็ถูกปฏิเสธอ้างว่าไม่สะดวกมารับ ตนบอกจะเอารถไปส่งผู้ป่วยเอง แต่ทางโรงพยาบาลฯ บอกว่า “ไม่สามารถรับได้เพราะเตียงเต็ม” ระหว่างที่โทรติดต่ออาการของคุณยาย ก็ทรุดลงเรื่อย ๆ จนสิ้นใจตาย


เมื่อวานนี้ (23 ก.ค.) ญาตินำร่างของผู้เสียชีวิตไปฌาปนกิจ ที่วัดเกาะสุวรรณาราม เขตสายไหม โดยมีลูกชายซึ่งอยู่บ้านอีกหลังหนึ่งเป็นคนดำเนินการเรื่องเผาศพ ส่วนลูกชาย ,สามีผู้ตาย,ลูกสะใภ้ และหลาน ๆ ที่อยู่บ้านหลังเดียวกันไม่สามารถไปร่วมเผาศพได้ เพราะติดเชื้อโควิดต้องกักตัวออกไปที่ไหนไม่ได้ /ล่าสุดคุณตา ได้ไปรักษาที่โรงพยาบาลบุษราคัม แล้ว


รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/Mn12whf78-k

คุณอาจสนใจ

Related News