วันนี้ (20 ก.ค.) เป็นวันแรกที่รัฐบาลประกาศล็อคดาวน์พื้นที่ 13 จังหวัด ในช่วงกลางวันขอความร่วมมือประชาชนงดออกจากบ้าน และกลางคืนห้ามออกจากบ้านหลัง 3 ทุ่ม ตามประกาศเคอร์ฟิว แต่วันนี้ปรากฎว่า ยังคงมีประชาชนออกมาใช้ชีวิตตามปกติ รวมถึงด่านตรวจของตำรวจก็ไม่ได้ตรวจรถที่เดินทางข้ามจังหวัด

ทีมข่าวสำรวจเส้นทางรถที่จะเดินทางออกต่างจังหวัด อย่างถนนบางนาตราดที่มุ่งหน้าไปภาคตะวันออก ยังคงมีรถบรรทุกวิ่งตลอดทั้งวัน ด่านที่ตั้งอยู่ตรงปั๊มน้ำมัน ริมถนนบางนาตราด กม.4.5 ขาออก ตั้งแต่เดือนที่แล้วยังคงมีอยู่ แต่ก็ไม่ได้ตั้งตรวจคัดกรองรถที่เดินทางเข้าออก

ตำรวจประจำด่านชี้แจงว่า ด่านนี้จะเน้นตรวจคัดกรองรถขนแรงงานต่างด้าวเป็นหลัก ช่วงกลางวันรถยังสามารถวิ่งได้ตามปกติ แต่กลางคืนจะเพิ่มความเข้มข้น มีด่านตรวจเคอร์ฟิวมากขึ้นตามจุดต่างๆ ในพื้นที่แต่ละ สน.

เช่นเดียวกับถนนพหลโยธิน ที่มีด่านคัดกรองที่หน้าสถานีรถไฟดอนเมือง ก็มีเพียงเต๊นท์ที่ตั้งอยู่ริมถนน และมีเจ้าหน้าที่นั่งอยู่เกือบ 10 นาย ทั้งเทศกิจ ตำรวจ และทหาร แต่ไม่มีการตรวจคัดกรองรถ ทั้งที่ถนนพหลโยธินเป็นเส้นทางหลักที่มุ่งหน้าไปสายเอเชีย เดินทางไปอยุธยา ขึ้นภาคเหนือ และอีสานได้

พลตำรวจตรี ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ชี้แจงว่า สำหรับการประกาศเพิ่มความเข้มฉบับล่าสุด ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลไม่ได้สั่งการเพิ่มเติม เพราะดำเนินการเข้มงวดอยู่แล้ว โดยในช่วงกลางวันก็จะสังเกตการณ์ และตรวจสอบตามความเหมาะสม เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับการใช้ชีวิตของประชาชน แต่หลัง 3 ทุ่มเป็นช่วงเวลาห้ามออกจากเคหะสถานตามประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จุดตรวจจะยกระดับความเข้มข้นอีก คนที่ผ่านด่านต้องแสดงเอกสารการขออนุญาต

สำหรับด่านตรวจสกัดการเข้าออกกรุงเทพยังคงมี 6 จุดคงเดิม คือ

1. หน้าสถานีรถไฟดอนเมือง ถนนวิภาวดี-รังสิต (ขาออก)

2.ใต้สะพานข้ามแยกมหานคร ถนนสุวินทวงศ์ (ขาออก)

3.หน้าปั๊มน้ำมันบางจาก กม.4. 5 ถนนบางนา-ตราด (ขาออก)

4.ใต้สะพานข้ามแยกพุทธมณฑล สาย 3 ถนนบรมราชชนนี (ขาออก)

5.หน้าสำนักงานเขตหนองแขม ถนนเพชรเกษม ซอย 70

6.หน้าปั๊มน้ำมัน ปตท. เขตบางขุนเทียน ถนนพระรามที่ 2 (ขาออก)

สามารถดูข่าวทาง Youtube ได้ที่ : https://youtu.be/PI6nOqQPbIw