วันนี้ (19 ก.ค.) นายกรัฐมนตรี ได้เรียก รองนายกฯอนุทิน และทีมแพทย์ รวมถึงรัฐมนตรีกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ประเด็นสำคัญนอกจาก จะรับทราบแผนการจัดหาวัคซีนให้ครอบคลุมสายพันธุ์โควิด ยังเตรียมทบทวนพื้นที่ในการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

มีรายงานว่า ในช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้เรียก นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข / นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาธร ประธานคณะกรรมการจัดสรรวัคซีนและที่ปรึกษาศบค. เข้าหารือคาดว่าจะเป็นเรื่องการจัดหาวัคซีนเพิ่มเติม โดยรัฐบาล มีเป้าในการจัดสรรวัคซีน ให้ครอบคลุม ประชาชน ให้ได้ร้อยละ 70 ภายในสิ้นปีนี้ ขณะเดียวกัน จะเร่งฉีดวัคซีนโดสแรกให้ประชาชน ภายในสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้

สำหรับแผนดำเนินการ กรณีวัคซีนหลักที่ประชาชนเข้าถึงได้ฟรี ได้แก่ วัคซีนแอสตราเซเนกา, วัคซีนซิโนแวค, วัคซีนไฟเวอร์ และวัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน โดยมีวัคซีน ซิโนฟาร์ม และโมเดอร์นา เป็นวัคซีนทางเลือกภายใต้ความร่วมมือระหว่างหน่วยงานรัฐและเอกชน

นอกจากนี้ ยังมี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เข้ารายงานนายกรัฐมนตรี ถึงความคืบหน้าโครงการสมุยพลัส โมเดล รับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบเข้ามาเที่ยวในประเทศไทย หลังจังหวัดภูเก็ต ออกคำสั่งปิดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19

โดยเบื้องต้น จะมีการพิจารณาทบทวนการเปิดพื้นที่นำร่อง 10 จังหวัด ซึ่งขณะนี้ดำเนินการเปิดแล้วใน 4 จังหวัด คือ ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี กระบี่ และพังงา ส่วนที่เหลือในบางจังหวัดอาจยังเปิดรับนักท่องเที่ยวไม่ได้ เพราะยังพบตัวเลขการติดเชื้อใหม่จำนวนมาก และหากเปิดไปแล้วอาจทำให้เกิดปัญหาตามมา โดยเฉพาะการเกิดเป็นคลัสเตอร์ใหม่ จากการท่องเที่ยว

สามารถดูข่าวทาง Youtube ได้ที่ : https://youtu.be/pl-lbMAJGq8