ชาวอังกฤษเฮ! ได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติใหม่ หรือ นิว นอลมอล หลังจากรัฐบาลปลดล็อกดาวน์ รับมือการแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งเริ่มวันนี้เป็นวันแรก ท่ามกลางตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ ที่ยังพุ่งทะลุ 5 หมื่นคน ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

บรรยากาศการเปิดไนท์คลับแห่งหนึ่งในอังกฤษ ที่ร่วมกันต้อนรับ "ฟรีดอม เดย์" หรือ วันเสรีภาพ 19 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันที่ รัฐบาลอังกฤษ ผ่อนคลายมาตรการคุมเข้ม ป้องกันโควิด-19 ที่นำไปสู่การยกเลิกมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ทำให้ผู้คนกลับมารวมกลุ่มได้ และไม่มีข้อบังคับในการสวมหน้ากาก หรือเว้นระยะห่าง ขณะที่ ผับ บาร์ ไนท์คลับ โรงละคร โรงภาพยนตร์ และธุรกิจต่างๆ เปิดให้บริการตามปกติ ไม่จำกัดคนเข้าร่วมคอนเสิร์ต หรือ งานอีเว้นท์ใหญ่ๆ เป็นต้น

การผ่อนคลายมาตรการคุ้มเข้มครั้งนี้ ทำให้ บรรดาผับ บาร์ ตั้งแต่กรุงลอนดอน ไปจนถึง เมืองลิเวอร์พู กลับมาคึกคัก เต็มไปด้วยคนวัยหนุ่มสาว มารอเข้าคิวต่อแถวยาวเพื่อเข้าไปเที่ยวในร้าน เป็นจำนวนมาก

เจ้าของธุรกิจ ยินดีที่กลับมาเปิดร้านได้อีกครั้ง หลังสูญเสียรายได้ ราว 4 หมื่นปอนด์ ต่อเดือน นับตั้งแต่ใช้มาตรการคุมเข้มปิดสถานบันเทิง ไนท์คลับ ตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่แล้ว แต่ก็ธุรกิจบันเทิงบางแห่ง แสดงความวิตกกังวล เกี่ยวกับการตัดสินใจของรัฐบาล ที่เปิดเศรษฐกิจประเทศอย่างเต็มรูปแบบ โดยไม่มีมาตรการบังคับการสวมหน้ากาก ป้องกันการแพร่ระบาด ท่ามกลางผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้น โดยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 5.4 หมื่นคน ทำสถิติสูงสุด ในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา

ขณะที่นักวิทยาศาสตร์ชั้นนำนานาชาติ ระบุว่า Freedom Day ของอังกฤษ เป็นภัยคุกคามทั้งโลก ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ ราว 1,200 คน ได้ส่งจดหมาย ไปยัง วารสารทางการแพทย์ เดอะ แลนเซ็ท เพื่อตำหนิการตัดสินใของรัฐบาลอังกฤษแล้ว

ขณะที่ ศาสตราจารย์ นีล เฟอร์กูสัน จากมหาวิทยาลัย อิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอน ซึ่งมีฉายาว่า ศาสตราจารย์ ล็อคดาวน์ หนึ่งในผู้อยู่เบื้องหลังการวางมาตรการล็อกดาวน์ รับมือโควิด-19 ของอังกฤษเมื่อปีที่แล้ว ได้ออกมาเตือนว่า อาจต้องใช้เวลา ราว 3 สัปดาห์ ก่อนที่ทราบถึงผลกระทบของปลดล็อกดาวน์ในอังกฤษ ทำให้อาจจะได้เห็น ผู้ติดเชื้อรายใหม่ แตะ 1 แสนคนต่อวัน แม้ว่าชาวอังกฤษครึ่งประเทศ ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วก็ตาม และหากสถานการณ์เลวร้าย ผู้ติดเชื้ออาจเพิ่มเป็น 2 เท่า หรือ 2 แสนคนต่อวัน ซึ่งจะเป็นปัญหาใหญ่สำหรับหน่วยงานสาธารณสุข ที่ต้องรับมือกับผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น โดยแนะนำว่า รัฐบาลควรให้จำนวนผู้รับวัคซีนครบโดสในประเทศมากกว่านี้ ก่อนที่จะปลดล็อกดาวน์เต็มรูปแบบ

จนถึงขณะนี้ พบมีชาวอังกฤษ ได้รับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 เข็มแรกแล้ว กว่า 46 ล้านคน ทั่วประเทศ หรือคิดเป็น ร้อยละ 87.8 ของประชากรทั้งหมด ขณะที่ ชาวอังกฤษกว่า 35.7 ล้านคน หรือ ร้อยละ67.8 รับวัคซีนครบแล้ว 2 โดส

ขณะที่อังกฤษ เข้าสู่วันแห่งเสรีภาพ นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ผู้นำอังกฤษ กลับต้องถูกกักตัว และทำงานจากบ้านพัก เนื่องจากเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง ใกล้ชิดกับ นายซาจิด จาวิด รัฐมนตรีสาธารณสุข ติดเชื้อโควิด-19 โดยนายกรัฐมนตรีจอห์นสัน เรียกร้องให้ประชาชนระมัดระวังตัวและให้ชาวอังกฤษวัยผู้ใหญ่ เข้ารับการฉีดวัคซีน