ออสเตรเลียประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์รัฐวิกตอเรียเป็นครั้งที่ 5 หลังจากผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากซิดนีย์นำเชื้อเข้ามาแพร่กระจายเมื่อสัปดาห์ก่อน

นายแดน แอนดรูว์ส นายกรัฐมนตรีรัฐวิกตอเรีย ของออสเตรเลีย ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ระยะสั้นในเมืองต่างๆ ทั่วทั้งรัฐ ซึ่งรวมถึงนครเมลเบิร์น เมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศซึ่งตั้งอยู่ในรัฐวิคตอเรียด้วย หลังจากพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในการระบาดระลอกล่าสุด 18 ราย

ออสเตรเลียกำลังพยายามควบคุมการระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 ซึ่งผลักดันโดยไวรัสสายพันธุ์เดลตา ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งทำให้นครซิดนีย์ เมืองใหญ่ที่สุดของประเทศต้องถูกล็อกดาวน์เมื่อเดือนก่อน

นายแอนดรูว์ส ระบุว่า มาตรการล็อกดาวน์ในรัฐวิกตอเรียครั้งนี้ ซึ่งเป็นครั้งที่ 5 นับตั้งแต่ไวรัสโควิด-19 เริ่มระบาดเมื่อต้นปีก่อน จะเริ่มขึ้นหลังเที่ยงคืนวันพฤหัสบดี และจะดำเนินไปเป็นระยะเวลา 5 วัน ซึ่งจะทำให้ประชาชนทั่วรัฐกว่า 6.6 ล้านคน ต้องอยู่แต่ในบ้าน ยกเว้นออกไปซื้ออาหาร, ทำงานที่มีความรับผิดชอบสำคัญ, ออกกำลังกาย และฉีดวัคซีน

ทั้งนี้ การล็อกดาวน์ในรัฐวิกตอเรีย ทำให้ออสเตรเลียมีประชากรที่ถูกล็อกดาวน์แล้วกว่า 40% หรือ 12 ล้านคน โดยก่อนหน้านี้ ออสเตรเลียก็ได้ล็อกดาวน์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งมีเมืองใหญ่อย่างซิดนีย์ นาน 5 สัปดาห์ โดยเหลืออีก 2 สัปดาห์จะครบกำหนด ซึ่งสถานการณ์ในซิดนีย์ตอนนี้ถือว่าดีขึ้นมาก พบผู้ติดเชื้อ 65 ราย ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา