รับสาวท้องแก่ ติดโควิดส่ง รพ.สนาม หลังกังวลท้องแข็ง เด็กไม่ดิ้น จนท.แจงติดต่อมารับแล้ว 4 ครั้ง

สังคม

รับสาวท้องแก่ ติดโควิดส่ง รพ.สนาม หลังกังวลท้องแข็ง เด็กไม่ดิ้น จนท.แจงติดต่อมารับแล้ว 4 ครั้ง

โดย thichaphat_d

15 ก.ค. 2564

102 views

จากกรณี น.ส.เบญจพร (สงวนนามสกุล) หรือเบญ อายุ 24 ปี ตั้งครรภ์ 9 เดือน โพสต์เฟซบุ๊กขอความช่วยเหลือระบุว่า ตนเองท้องแก่กำหนดคลอดวันที่ 30 ก.ค. ที่จะถึงนี้ แต่ติดเชื้อโควิด-19 อยู่ระหว่างการรอเตียง มีอาการไข้สูง ตัวร้อน ลิ้นไม่รับรส จมูกไม่ได้กลิ่น หายใจไม่สะดวก อ่อนเพลีย ไอและเบื่ออาหาร เด็กอยู่ในครรภ์เริ่มไม่ดิ้นแล้ว


เมื่อติดต่อไปทางโรงพยาบาลที่รับฝากครรภ์กลับได้รับคำตอบว่า “เตียงเต็ม” และต้องไปคลอดลูกก่อน แล้วทางโรงพยาบาลจะรับรักษาโควิดให้ ให้ติดต่อไปที่โรงพยาบาลเมืองสมุทรปราการปู่เจ้า ที่ใช้สิทธิประกันสังคมแทน แต่ได้คำตอบกลับมาว่า “ตอนนี้เตียงเต็ม” รอ เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับอย่างเดียว


นางสาวเบญจพร เผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อวันที่ 13 ก.ค. แค่มีไข้ยังไม่ไอมาก แต่คืนวันเดียวกันเริ่มตัวร้อน ไอหนักจนเกร็งหน้าท้องทำให้ท้องแข็ง ปวดท้องหายใจลำบาก ยิ่งพูดเยอะก็ยิ่งไอ ทั้งนี้ตนเองสังเกตอาการพบว่าเริ่มมีไข้ตั้งแต่วันที่ 11 ก.ค. จากนั้นวันที่ 12 ก.ค. ได้ไปตรวจหาเชื้อ ทราบผลวันที่ 13 ก.ค. เป็นบวก และเริ่มมีอาการเรื่อย ๆ ลิ้นไม่รับรส จมูกเริ่มไม่ได้กลิ่น


ตั้งแต่ที่ตนทราบผลตรวจก็พยายามติดต่อไปยังโรงพยาบาลตามสิทธิ์ประกันสังคม ได้ตำตอบว่าเตียงเต็ม แล้วก็โยนให้ตนที่นั่น ที่นี่ไปเรื่อย ๆ บางแห่งให้แอดไลน์แจ้งข้อมูลประวัติและอาการทิ้งไว้ รวมถึงแจ้งขอความวช่วยเหลือเพจต่าง ๆ แต่ก็ไม่มีใครช่วย จนรุ่นน้องที่รู้จักกันนำเรื่องราวไปโพสต์ในเพจ ๆ หนึ่ง คนแชร์และติดต่อมาสอบถามจะประสานให้ความช่วยเหลือเยอะมาก


“หนูท้องแข็งผิดปกติเป็นห่วงลูกในท้องมากเพราะไม่ค่อยดิ้น ปกติจะดิ้นแรงมาก หนูสังเกตมาตลอดว่าลูกดิ้นนั่นหมายความว่าเด็กในครรภ์ไม่เป็นอะไร แต่ตอนนี้เด็กในครรภ์นิ่งเงียบ รู้สึกสึกกลัว หนูสังเกตว่าลูกเริ่มไม่ดิ้นตั้งแต่คืนวันที่ 13 ก.ค. ช่วงที่ไอหนัก ๆ พยายามนอนหลับเพราะจะไม่ไอและท้องจะได้ไม่เกร็งแข็ง แต่นอนไม่หลับเลยเพราะมีคนโทรมาสอบถามอาการทั้งคืนได้แต่ภาวนาขอให้ลูกในท้องไม่เป็นอะไร”


นางสาวเบญจพร ระบุต่อว่า กรณีเคสของตนควรจะได้รับการรักษาที่โรงพยาบาล มากกว่าให้ไปรักษาที่โรงพยาบาลสนาม เพราะไม่ใช่ผู้ป่วยปกติทั่วไป น่าจะดูแลดีมากกว่านี้ไม่ใช่ให้ไปอยู่โรงพยาบาลสนาม ซึ่งเจ้าหน้าที่อาจดูแลไม่ทั่วถึง มันทำให้ตนรู้สึกกลัวจะได้รับการดูแลดีเท่าที่ควร ตนเองอยากเข้ารับการรักษาโรงพยาบาลรัฐบาลมากกว่า ถ้าเป็นเอกชนตนไม่มีเงิน


“ยอมรับรู้สึกน้อยใจที่ติดต่อไปโรงพยาบาล หน่วยงานต่าง ๆ ไม่ได้รับการช่วยเหลือ ยังไม่ฉุกเฉินพอเหรอ ทำไมปัดโยนกันไปมา หนูเข้าใจว่าเตียงเต็มจริง ๆ แต่ถ้าฉุกเฉินมาก ๆ อย่างเคสของตนควรจะรีบช่วย ตนคิดว่าตนเองเป็นผู้ป่วยพิเศษ ถ้าตนเป็นผู้ป่วยทั่วไปไม่ได้ตั้งครรภ์ ก็ไม่มีอะไรน่าห่วง เอาตนไปรักษาที่ไหนคนเดียวก็ได้ แล้วลูกในครรภ์ของตนจะเป็นอย่างไร ชีวิตของทุกคนสำคัญหมด”


เมื่อวานนี้ (14 ก.ค.) รถกู้ชีพจากเทศบาลนครสมุทรปราการ มารับผู้ป่วยเเล้ว ที่บ้านพักภายในซอยตรากบ เพื่อนำส่งไปส่งรักษาที่โรงพยาบาลสนาม มหาลัยราชภัฎธนบุรีสมุทรปราการ โดยมีคุณหมอประจำห้องคลอดเดินทางไปรอรับอยู่ที่โรงพยาบาลสนามฯ


ด้านนายวิชัย พฤทธิ์สรวิศ สมาชิกสภาเทศบาลนครสมุทรปราการ ทำหน้าที่หัวหน้าศูนย์กู้ชีพเทศบาลนคร กล่าวว่า ผู้ป่ายรายนี้ตนนำรถเข้ามารับตัวตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 13 ก.ค. แล้วครั้งหนึ่ง เมื่อเช้าของวานนี้ (14ก.ค.) ก็เข้ามา แต่ผู้ป่วยไม่ยอมไปโดยอ้างว่า ต้องการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสมุทรปราการเท่านั้น แต่ด้วยห้องคลอดของโรงพยาบาลสมุทรปราการ ปิดอยู่ในขณะนี้เนื่องจากมีบุคลากรทางการแพทย์ประจำห้องคลอดเกิดการติดเชื้อโควิด


ตนได้อธิบายให้ผู้ป่วยทราบแล้ว แต่ผู้ป่วยอ้างว่ามีอธิบดีฯ ซึ่งตนไม่รู้เป็นใคร ประสานงานกับ ทางผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรปราการให้แล้ว ครั้งนี้ตนนำรถมารับเป็นครั้งที่ 4 และในครั้งนี้ทางศูนย์สั่งการณ์ได้แจ้งว่ามีคนมาเกลี้ยกล่อม จนผู้ป่วยยอมไปรักษาที่โรงพยาบาลสนาม จึงได้นำรถเข้ามารับ


ล่าสุดผู้สื่อข่าวสอบถามนางสาวเบญจพร ถึงอาการของเด็กในครรภ์ ระบุว่า หลังจากที่ตนเองไปถึงโรงพยาบาลสนาม ยังท้องแข็งเหมือนเดิม หมอยังไม่ได้ตรวจดูอาการเด็กในครรภ์ มีเพียงพยาบาลที่มาจับ ๆ ท้อง โดยบอกว่าแค่เกร็งท้องแข็งเฉย ๆ ไม่ใช่อาการคนจะคลอด ตนไม่ทราบว่าหมอจะมาตรวจเมื่อไหร่ ตอนนี้เป็นห่วงความปลอดภัยของเด็กในครรภ์



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/AwdoNQrOlCU

คุณอาจสนใจ

Related News