จากกรณีเมื่อวันที่ 12 ก.ค. 64 คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติได้มีมติ 2 ข้อ โดย 1. ชี้บูสเตอร์ให้บุคลากรทางการแพทย์ และ 2 . สามารถฉีดวัคซีนสลับกันได้ ใช้ซิโนแวคเข็มแรก และแอสตราเซเนกา เข็มที่สอง ซึ่งภายหลังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งให้ทบทวนคำสั่งการฉีดวัคซีนเนื่องได้มีเปิดคลิปขององค์การอนามัยโลกที่พูดเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนสลับเข็มกัน

โดยภายหลังโรงพยาบาลหลายแห่งในเชียงใหม่ได้ประกาศหยุดการฉีดวัคซีนแบบไขว้กัน จนกว่าจะได้ความชัดเจน เช่นเดียวกับนนทบุรีเองก็ได้ประกาศใช้สูตรเดิมเช่นกัน

และเมื่อวานนี้ (14 ก.ค.64) นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ไม่ได้ระงับการฉีดวัคซีนสลับเข็มกัน และมีนโยบายเน้นการจัดหาและฉีดวัคซีนให้ประชาชนโดยเร็วที่สุด ในขณะเดียวกันก็ได้มีการเก็บสถิติในการฉีดวัคซีนโดยคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการฉีดวัคซีนแม้ไม่ป้องกันการติดเชื้อได้ 100% แต่สามารถลดความรุนแรงและลดการเสียชีวิตได้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคเรื้อรัง

นอกจากนี้ นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้เปิดเผยว่า เนื่องจากยังไม่มีคำสั่งลงมาอย่างเป็นทางการ จึงจะจัดการประชุมแบบวิดิโอคอนเฟเรนท์ และจะแจ้งให้ทราบภายหลัง 

อีกทั้งการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อ ได้มีข้อสรุปให้สนับสนุนการฉีดวัคซีนไขว้ โดยมีระยะห่าง 3 - 4 สัปดาห์ โดยอ้างอิงจากผู้แทนองค์การอนามัยโลกที่พูดคุยด้วย เรื่องของการเก็บข้อมูลและติดตามผลลัพธ์ อีกทั้งถ้าเป็นสธ. ของแต่ละประเทศยืนยันถึงผลการศึกษา ก็สามารถทำได้ แต่ประชาชนไม่สามารถขอฉีดแบบสลับได้ เพื่อป้องกันความวุ่นวาย

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/6zUhG36J8cU