วันนี้ (14 ก.ค.) ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของไทย เพิ่มขึ้นกว่า 9,000 คนอีกครั้ง โดยวันนี้ ศบค.รายงานพบผู้ติดเชื้อครบทั้ง 77 จังหวัด ส่วนตัวเลขผู้ป่วยที่ยังรักษาอยู่ ใกล้ทะลุหนึ่งแสนคนแล้ว ยอดเสียชีวิตวันนี้ก็เพิ่มขึ้น 87 คน นอกจากนี้มีบางรายที่เสียชีวิตก่อนจะได้รับการรักษา

โดยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่ 9,317 คน หลังจากลดลงไปต่ำกว่า 9 พันคน ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ส่วนยอดผู้เสียชีวิตยังเพิ่มสูงอยู่ต่อเนื่อง วันนี้มีรายงานตัวเลขอยู่ที่ 87 คน ในจำนวนนี้อยู่ กทม.มากถึง 55 คน ส่วนจังหวัดชายแดนใต้ มีเสียชีวิตที่ยะลา 5 คน, นราธิวาส 4 คน, และ ปัตตานี 3 คน ผู้เสียชีวิตอายุมากที่สุดคือ 104 ปี

ยอดผู้ป่วยที่เพิ่มสูงต่อเนื่อง ให้ทำขณะนี้จำนวนผู้ป่วยที่รักษาอยู่ในระบบใกล้ถึงหนึ่งแสนคนแล้ว ตัวเลขล่าสุดอยู่ที่ 99,511 คน ส่วนใหญ่อยู่ในโรงพยาบาล 56,057 คน โรงพยาบาลสนาม 43,454 คน  อาการหนัก 3,201 คน  ใส่เครื่องช่วยหายใจ 828 คน

เปรียบเทียบกับเมื่อวาน ผู้ป่วยอาการหนักวันนี้เพิ่มมาอีก 159 คน ใส่เครื่องช่วยหายใจเพิ่มอีก 34 คน โดยในช่วง 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคม มีผู้ป่วยอาการหนักเพิ่มมาถึง 637 คน  ใส่เครื่องช่วยหายใจเพิ่ม 130 คน

และวันนี้เป็นอีกวัน ที่พบผู้ป่วยรายใหม่ทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ โดยมีมากถึง 16 จังหวัด ที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เกิน 100 คน ประกอบด้วย 10 จังหวัดที่อยู่ในพื้นที่สีแดงเข้ม และอีก 6 จังหวัด คือ ชลบุรี, นครราชสีมา, ฉะเชิงเทรา, มหาสารคาม, ศรีสะเกษ และ ราชบุรี

สำหรับคลัสเตอร์ใหม่ในต่างจังหวัด ที่พบผู้ติดเชื้อมากที่สุดคือ แคมป์ก่อสร้างที่ อ.พนมสารคาม ฉะเชิงเทรา พบผู้ติดเชื้อแล้วมากถึง 196  คน

และวันนี้พบชายวัย 67 ปี ที่อยู่ในซอยนภาศัพท์ แยก 4 ย่านคลองเตย เพิ่งรู้ผลจากการตรวจ Rapid test พบติดเชื้อโควิดไม่ถึง 3 วันก่อน เช้านี้ ตัดสินใจแต่งตัวจะไปรอต่อแถว ตรวจคัดกรองแบบ PCR ปรากฎ เพื่อจะเข้ารับการรักษา แต่กลับวูบทรุดลงกับพื้น และเสียชีวิตในอ้อมแขนลูกชาย

ทีมข่าวลงพื้นที่ไปบ้านก็พบกับลูก และภรรยาผู้ตาย บอกว่า ก่อนหน้านี้พ่อมีอาการไอผิดปกติมาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว จากการไปทำงานรับส่งของ เริ่มอาการหนักขึ้นเมื่อวันเสาร์จึงตัดสินใจ จะไปตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง แต่คิวยาวและหมดคิวไปก่อน จึงกลับมาบ้าน

ตั้งใจจะไปต่อแถวรอตรวจ PCR ที่โรงพยาบาลอีกแห่ง โดยจะไปรอตั้งแต่ตี 3 ซึ่งระหว่างเตรียมตัวออกจากบ้าน ปรากฎว่าพ่อฟุบลงไปกับพื้น จึงช่วยประคอง ก่อนจะนิ่งไป พยามปั้มหัวใจ ร่วมชั่วโมงแต่ก็ไม่ทัน