ชายวัย 67 ปี เป็นลมวูบที่หน้าบ้านแล้วเสียชีวิตในอ้อมกอดลูกชาย ขณะเตรียมไปเข้าคิวรับการตรวจ PCR ที่โรงพยาบาลในเช้าวันนี้ หลังได้ผล rapid antigen test ว่าติดเชื้อโควิด-19 ทั้งที่ได้รับวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าแล้ว 1 เข็ม

โดยเรื่องน่าเศร้าเกิดขึ้นเมื่อช่วงประมาณ ตี 4 ที่ผ่านมา (14 ก.ค.) ที่หน้าบ้านไม้ 2 ชั้นอยู่ในตรอกเล็กๆ ภายในซอยนภาศัพท์ แยก 4 ย่านคลองเตย ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปตรวจสอบ และได้พบกับลูกชาย และภรรยาของผู้เสียชีวิต

ลูกชาย เล่าว่า บ้านหลังนี้อยู่กัน 3 คน พ่อแม่ลูก และพ่อทำงานรับส่งของ และมีอาการไอผิดปกติมาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว กระทั่งวันเสาร์อาการหนักขึ้น จึงไปโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง เพื่อตรวจหาเชื้อ แต่ไม่ได้เพราะคิวเต็ม จากน้ันพ่อมีไข้สูง

วันจันทร์ จึงตัดสินใจไปตรวจแบบ rapid antigen test ที่คลินิคแห่งหนึ่ง ปรากฎว่าพ่อ และเขา ติดเชื้อ ทางคลินิกแนะนำให้ไปตรวจแบบ PCR เพื่อนำผลไปใช้สำหรับรักษาตัวที่โรงพยาบาล

กระทั่งตี 3 ของเช้าวันนี้ พ่อ แม่ และเขา ตั้งใจจะไปเข้าคิวตรวจ สวอป หรือ PCR ที่โรงพยาบาล แต่ปรากฎว่า พ่อวูบไปตอนกำลังจะออกจากบ้าน เขาจึงเข้าไปประคอง พ่อหายใจมาเฮือกหนึ่ง ก่อนจะนิ่งไป และไม่มีชีพจรอีก

ทั้งนี้ ตอนที่ผู้สื่อข่าวไปสัมภาษณ์เป็นเวลาเกือบเที่ยงแล้ว แต่ร่างของผู้เสียชีวิตยังนอนอยู่ในบ้าน รอเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมานำร่างพ่อใส่โลง เพื่อรอรถจากวัดมารับไปทำพิธีฌาปนกิจพรุ่งนี้ เพราะวันนี้คิวเผาเต็มแล้ว ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้เห็นปัญหาของระบบสาธารณสุขว่า ตั้งแต่การตรวจหาเชื้อที่เข้าถึงยาก และรูปแบบใช้รองรับต้องเป็น PCR เท่านั้น แม้ทุกคนจะยอมควักเงินจ่าย แต่ก็ไม่มีที่ให้ตรวจ

ส่วนการใช้ rapid test ผลการตรวจก็ไม่ได้สามารถใช้ยื่นบริษัท หรือ ใช้ในการส่งต่อตัวไปรักษาได้ ส่วนตัวรู้สึกว่า เสียเงินฟรี และตอนนี้เตียงมีไม่เพียงพอ โรงพยาบาลที่รับรักษาไม่พอ ทำให้มีคนตายคาบ้านเยอะมาก

ขณะที่ ภรรยาผู้เสียชีวิต บอกว่า เธอเป็น อาสาสมัครสาธารณสุข หรือ อสส. เป็น เลขาชุมชน เคยช่วยส่งคนป่วยในชุมชนไปโรงพยาบาลได้หมด เป็นจิตอาสาช่วงโควิด หาเตียงให้คนอื่นได้ แต่มันน่าเสียใจ และน่าน้อยใจ ที่พอเกิดกับคนในครอบครัว ตัวเองกลับทำอะไรไม่ได้

สำหรับผู้เสียชีวิตได้ฉีดวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม และนัดฉีดเข็ม 2 วันที่ 16 กรกฎาคมนี้ แต่ก็มาเสียชีวิตก่อน

สามารถดูข่าวทาง Youtube ได้ที่ : https://youtu.be/8Zw3I4qnqtY