นพ.ยง ยืนยัน วัคซีนโควิด-19 สามารถฉีดสลับชนิดกันได้มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงพอในช่วงที่ประเทศไทยเผชิญสถานการณ์แพร่ระบาดในเวลานี้ ย้ำทุกคนควรได้รับวัคซีน

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อธิบายว่า ในระยะแรกวัคซีนทุกรูปแบบทุกผู้ผลิต ได้ผลิตจากไวรัสตั้งต้นคือสายพันธุ์อู่ฮั่น ต่อมาไวรัสมีการพัฒนากลายพันธุ์อีกหลายสายพันธุ์ พบว่าในระยะหลังประสิทธิภาพของวัคซีนลดลง

ขณะนี้มีวัคซีนสองรูปแบบ คือผลิตจากเชื้อตายใช้เทคโนโลยีดั้งเดิม และวัคซีนไวรัสแว็กซ์เตอร์ ใช้เทคโนโลยีใหม่ ซึ่งได้ศึกษาการฉีดวัคซีนเข็มที่หนึ่งและเข็มที่สองต่างชนิดกัน เพื่อดูประสิทธิภาพการสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยเข็มที่หนึ่งทดลองใช้วัคซีนชนิดเชื้อตายซิโนแวค ห่างไป 3-4 สัปดาห์ ให้วัคซีนชนิดไวรัลแว็กซ์เตอร์ เเอสตราเซเนกา พบร่างกายมีการสร้างภูมิต้านทานได้สูงเท่า การใช้แอสตราเซนิกา 2 เข็ม แต่ใช้ระยะเวลาที่สั้น

ดังนั้น ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของสายพันธุ์เดลต้าในขณะนี้ การใช้วัคซีนต่างชนิดกันในเข็มหนึ่งและเข็มสอง จึงมีความเหมาะสม ณ เวลานี้ ทั้งปลอดภัยและประสิทธิภาพสูง ซึ่งในอนาคตหากมีวัคซีนชนิดอื่นที่มีการพัฒนาหรือมีเทคโนโลยีที่ดีกว่า ก็สามารถพิจารณเปลี่ยนแปลงได้

ส่วนการกลายพันธุ์ นพ.ยง มองว่า เป็นเรื่องปกติของไวรัสโคโรนาที่มีการเปลี่ยนแปลงดีเอ็นเอจาก สายพันธุ์ตั้งต้นที่แพร่ระบาดแค่หลักสิบต่อมา แพร่ได้เร็วขึ้นจนเป็นสายพันเดลต้าที่แพร่เร็วมากถึง 4 เท่า และจะเข้ามาครองพื้นที่ ส่วนโอกาสในหนึ่งคนมีไวรัสสองสายพันธุ์สามารถเกิดขึ้นได้ แต่สิ่งที่น่ากังวลคือหากไวรัสสองสายพันธุ์มีการแบ่งตัวและมีการแลกชิ้นส่วนของกันละกัน จนเกิดการกลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ใหม่ แต่สำหรับโคโรนาไวรัสยังไม่พบการกลายพันธุ์ในลักษณะนี้

สามารถดูข่าวทาง Youtube ได้ที่ : https://youtu.be/5OILPYfspTU