วันที่ 12 ก.ค. 64 รายการโหนกระแส พูดคุยกับ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฬา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ ดร.ฉัตรชัย นพวิชัย หัวหน้าห้องปฏิบัติการวิจัยและพัฒนาโรคทางสมอง และโรคติดเชื้อขั้นสูง (ARDNI) ถึงกรณีการใช้สูตรฉีดวัคซีนโควิด-19 พร้อมประเด็นการตรวจโควิดเทคนิคใหม่ทางน้ำลาย ว่าสามารถทำได้จริงหรือไม่

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฬา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า การที่มีผู้ฉีดวัคซีนซิโนแวคครบทั้ง 2 เข็มแล้ว แต่ยังพบติดเชื้อโควิด-19 นั้น ภาพรวมการฉีดวัคซีนเป็นการลดอาการหนัก ทำให้เสียชีวิตน้อยลง แต่ในระยะเวลาที่ผ่านมา บุคลาการทางการแพทย์ ที่เข้ารับการฉีดซิโนแวคครบ 2 เข็มแล้ว พบว่า ระดับภูมิคุ้มกันที่ยับยั้งไวรัสได้ เดือนที่ 2 เริ่มมีเจ้าหน้าที่ติดเชื้อมากขึ้น จากการวิจัยได้มีการนำวัคซีนซิโนแวค 2 เข็มมาบวกกับวัคซีนแอสตราเซเนกา 1 เข็ม พบว่า ภูมิคุ้มกันมีประสิทธิภาพอย่างน่าพอใจ

ดร.ฉัตรชัย นพวิชัย หัวหน้าห้องปฏิบัติการวิจัยและพัฒนาโรคทางสมอง และโรคติดเชื้อขั้นสูง (ARDNI) กล่าวเพิ่มเติมว่า การยับยั้งการระบาดที่เร็วที่สุดคือการตรวจเชิงรุก พบผู้ติดเชื้อมากเท่าไหร่ การกลายพันธุ์ก็ยิ่งเพิ่มสูงขึ้น ปัจจุบันการตรวจเชิงรุกคือการแยงจมูก ส่วนเทคนิคการตรวจโควิดทางน้ำลาย ผลทดสอบเบื้องต้น ประสิทธิภาพเทียบเท่าการตรวจหาเชื้อจากการแยงจมูก ซึ่งตอนนี้อยู่ในระหว่างการวิจัยเพิ่มเติมอีกระยะ และหวังได้รับการสนับสนุนหน่วยงานและจากภาครัฐ ซึ่งเบื้องต้นมีการพูดคุยไว้ระดับหนึ่งแล้ว