สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศ ยังคงเดินหน้าทำสถิตินิวไฮใหม่อย่างต่อเนื่อง และวันนี้ยอดผู้เสียชีวิตสูงสุดอีกครั้งจำนวนถึง 75 คน ขณะที่ผู้ติดเชื้อรายวันมากกว่า 7,000 คน

วันนี้ (8 ก.ค.) ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่ 7,058 คน มาจากระบบเฝ้าระวังและการตรวจเชิงรุก 6,990 คน  จากเรือนจำ 68 คน ทำให้จนถึงขณะนี้ไทยมียอดผู้ป่วยสะสมรวม 308,230 คน รักษาตัวอยู่ 69,619 คน อาการหนัก 2,564 คน ใส่ท่อช่วยหายใจ 698 คน

ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตก็กลายเป็นสถิติสูงสุดอีกครั้งที่ 75 คน แยกเป็นเพศชาย 39 คน เพศหญิง 36 คน อายุระหว่าง 33-94 ปี ค่ากลาง 63 ปี ส่วนใหญ่อยู่ใน กทม.ถึง 38 คน ส่วนใหญ่มีโรคประจำตัวร่วมด้วย เช่น ความดัน, เบาหวาน และไขมันในเลือดสูง ซึ่งจนถึงขณะนี้ไทยมีผู้เสียชีวิตสะสมรวม 2,462 คน

ส่วนจังหวัดที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศรายใหม่ 3 อันดับแรก ได้แก่ กทม. 2,212 คน, สมุทรปราการ 565 คน สมุทรสาคร 517 คน

และพบคลัสเตอร์ใหม่ที่ จ.เพชรบุรี ที่บริษัทชิ้นส่วนรถยนต์ อ.เขาย้อย พบผู้ติดเชื้อ 15 คน และ จ.สระบุรี ที่ตลาดล้ง อ.แก่งคอย พบผู้ติดเชื้อ 14 คน

โดย พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษก ศบค. ระบุว่า ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก ได้ออกมาตรการเร่งด่วน เปิดจุดตรวจหาเชื้อแบบวอร์คอินให้ประชาชน โดยจะให้แล็บของเอกชนที่ได้มาตรฐานเข้าร่วมด้วย ซึ่งมีการเปิดจุดตรวจแก่ผู้ประกันตน และประชาชนทั่วไป ที่สนามกีฬาเวศน์ ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ในวันจันทร์ ที่ 12กรกฎาคมนี้เป็นต้นไป จะมีรถตรวจพระราชทานประจำที่สนามธูปเตมีย์ และหัวหมาก ด้วย ส่วนการคัดกรองเชิงรุกที่ดำเนินการอยู่ก็จะทำต่อไป

ส่วนกรณีปัญหาผู้ต่อคิวตรวจหาเชื้อโควิดจำนวนมาก และหลายคนไม่สามารถเข้าถึงการตรวจด้วยวิธี RT-PCR ได้ ล่าสุดนายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมใช้วิธีตรวจหาแอนติเจน โดยใช้ชุดตรวจ rapid antigen Test ในชุมชน วิธีนี้จะเร็วกว่าการตรวจแอนติบอดี แต่จะต้องให้บุคลากรทางการแพทย์เป็นผู้ตรวจให้เท่านั้น ยังไม่สามารถนำไปตรวจเองได้ที่บ้านได้ โดยทาง สปสช. กำหนดให้มีค่าใช้จ่ายไม่เกิน 450 บาท และไม่เกิน 600 บาทต่อคน ซึ่งการตรวจวิธีนี้อาจทำให้พบผู้ติดเชื้อที่มีผลเป็นบวกมากขึ้น ซึ่งจะต้องดำเนินการควบคู่กับ home isolation หรือ community isolation เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่เชื้อ

ทางด้าน ศาสตราจารย์ นายแพทย์ นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ชี้แจงการจัดสรรวัคซีนซิโนฟาร์มให้กับประชาชนทั่วไป โดยจะเปิดให้ยื่นความจำนงได้ในสัปดาห์หน้าเป็นรอบๆ รอบละ 20,000 คน และจะกำหนดไปที่พื้นที่สีแดงก่อน ขณะที่ส่วนภาคท้องถิ่นและเอกชนอื่นๆ ยืนยันจะได้รับการจัดสรรครบถ้วนทั้ง 4.7 ล้านโดส อย่างแน่นอน

ล่าสุด แพทยสภาได้ออกแถลงการณ์ในสถานการณ์โควิด-19 ฉบับที่ 1 โดยเสนอให้ภาครัฐและเอกชนจัดหาวัคซีนที่หลากหลายในจำนวนที่เพียงพอ และมีประสิทธิภาพ ต่อเชื้อกลายพันธุ์ เช่น กลุ่มวัคซีน mRNA โดยให้ครอบคลุมทั้งผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน และเพื่อฉีดกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้กับผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้ว โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ขณะเดียวกันสนับสนุนให้บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าได้รับวัคซีนที่เหมาะสม เช่น กลุ่มวัคซีน mRNA อย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ได้เรียกร้องให้มีรัฐและเอกชนเปิดให้ประชาชนเข้าถึงการตรวจเชื้อได้อย่างทั่วถึงเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร สถานที่และทรัพยากรต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่รุนแรงมากขึ้น