ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีร้านอาหารขนาดใหญ่ รูปแบบให้บริการครบวงจร ริมถนนรัตนาธิเบศร์ ตรงข้ามห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัล สาขารัตนา ที่เปิดกิจการมากว่า 20 ปี ได้ปิดตัวลงด้วยพิษของสถานการณ์โควิดที่ระบาดอย่างหนักหน่วง โดยเฉพาะนนทบุรี ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งในจังหวัดพื้นที่สีแดง เมื่อรัฐบาล ประกาศล้อคดาวน์แค๊มป์คนงานก่อสร้าง และร้านอาหารใหญ่เล็ก เป็นเวลา 1เดือน

ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปที่ร้านดังกล่าว ได้พบกับนางศุภักษรณ์ ชูพุทธพงษ์ อายุ 58 ปี หรือที่เด็กๆในร้าน และผู้มาใช้บริการต่างเรียกกันติดปากว่า แม่หน่อย ขณะกำลังยืนดูคนงานนับสิบจากบริษัท รับรื้อถอนโครงสร้าง อาคาร ทำการ เคลื่อนย้ายอุปกรณ์ และรอรื้อถอนตัวอาคารทั้งหมด

แม่หน่อย กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ พร้อมเปิดเผยเรื่องราวความเป็นมาว่า ร้านปอรัตนาแห่งนี้ ในรูปแบบ ค๊อฟฟี่ช๊อฟ ฟิตเนต-ซาว์น่า ห้องคาราโอเกะ ห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ เพลงเพื่อชีวิต และข้าวต้มรอบดึก ในบริเวณเนื้อที่กว่า 2ไร่ โดยเช่าจากเจ้าของที่เดือนละ 380,000 บาท มีลูกน้องอีกกว่า 100 ชีวิต ถือว่าเป็นร้านอาหารที่ตอบโจทย์คนนนทบุรีได้เป็นอย่างดีเยี่ยม และเป็นที่รู้จักกันทั้งจังหวัด โดยเฉพาะอาหารที่ขึ้นชื่ออย่าง กุ้งเผา กระพงทอดน้ำปลา หรือจะเป็น เผือกหิมะ ของหวานขึ้นชื่อ

นางศุภักษรณ์ ยังเล่าว่า หลังจากสถานการณ์โควิดเข้ามา ทางร้านได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก ทั้งระลอก 1 2 3 4 แต่ก็ปภิบัติตามคำสั่งทั้งของภาครัฐและจังหวัด ที่ออกมาอย่างต่อเนื่องอย่างเคร่งครัด แต่กับค่าเช่าที่สูง และไม่ได้รับการเยียวยาใดๆเลยในช่วงเวลาที่ต้องปิด แต่ร้านกับต้องจ่ายค่าเช่าให้กับเจ้าของที่ จนกระทั่งล่าสุด ทาง ศคบ. มีคำสั่งล้อคดาวน์แค๊มป์คนงาน โดยเฉพาะร้านอาหาร ไม่ให้นั่งดื่มกิน เป็นเวลา 1เดือน โดยก่อนประกาศนั้น ก่อนคำสั่ง ก็ยังเปิดโอกาสให้นั่งได้ แต่เพียง 1วันที่เปิด ศคบ.ชุดใหญ่ ก็ประกาศล้อคดาวน์ทันที ทั้งๆที่เปิดได้เพียงแค่วันเดียว ตนเองก็เข้าใจว่าในส่วนของจังหวัดนนทบุรีมีผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้น และเป็นพื้นที่สีแดง ก็ปฏิบัตตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด แม้วันนี้จะใกล้ครบ 1เดือนแล้วก็ตามที แต่ทางร้านไม่อาจแบกรับค่าเช่า ค่าใช้จ่าย และยังต้องดูแลในส่วนของลูกน้องอีกจำนวนหนึ่ง ที่พักอาศัยอยู่ที่ร้านได้ จึงต้องปิดตัวลง

ปิดตำนานร้านอาหาร "ปอรัตนาธิเบศร์" อณาจักรครบวงจรแห่งนี้

สามารถดูข่าวทาง Youtube ได้ที่ : https://youtu.be/7zxaTj712x0