วานนี้ (6 ก.ค.) เมื่อเวลา 18.30 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงาน ภายในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง โซน3 ถนนฉลองกรุง เขตลาดกระบัง กทม. โดยพบว่าที่เกิดเหตุเป็นบริษัท ฟลอรอลแมนูแฟคเจอริ่งกรุ๊ป จำกัด พบแสงเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง รวมทั้งกลุ่มควันสีดำพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าเป็นจำนวนมาก

ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยลาดกระบังได้นำรถดับเพลิงและนักผจญเพลิงเข้าดำเนินการช่วยเหลือ เพื่อพยายามควบคุมเหตุเพลิง เบื้องต้นพบว่าโรงงานดังกล่าว ประกอบกิจการประเภท แชมพู สบู่ เจลอาบน้ำ โลชั่นทาผิว ดังนั้นขณะเกิดเหตุภายในโรงงาน จึงมีสารประเภทแอลกอฮอล์และทินเนอร์อยู่เป็นจำนวนมาก

โดยเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานครต้องระดมรถฉีดน้ำเข้าควบคุมแสงเพลิง ที่ลุกไหม้ภายในอาคารโรงงาน

เจ้าหน้าที่ดับเพลิง แจ้งให้ใช้ความระมัดระวังในการเข้าควบคุมเพลิง เนื่องจากตัวโครงสร้างของอาคารได้รับความเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้เป็นเวลานานพอสมควร อาคารเริ่มมีรอยแตกร้าว เริ่มทรุดตัว อาจจะเกิดการถล่มลงมา

ขณะเดียวกันพบว่า หลังคาของตัวอาคารได้พังลงมาแล้ว เจ้าหน้าที่ดับเพลิงก็ได้ถอยออกมา และยังคงฉีดน้ำเลี้ยงไว้ ส่วนแสงเพลิงนั้นเริ่มลดลงบ้าง แต่ก็ยังมีบ่างช่วงที่ไฟโหมขึ้นมา เจ้าหน้าที่จึงต้องฉีดน้ำเข้าไปตามช่องหลังคาด้านบน เนื่องจากไม่สามารถเข้าไปได้ แต่ก็มีบางจุดที่สามารถดับไฟได้แล้ว

อีกทั้ง ภายในโรงงาน อาจมีสารทำละลาย ที่มีปฏิบัติกิริยาไวกับน้ำและไฟ รวมทั้ง มีข้อมูลว่า อาจมีแอลกอฮอล์ประมาณ 30,000 ลิตร จึงต้องใช้โฟมในการดับ ซึ่งเมื่อเวลา 20.45 น. เพลิงไฟได้สงบลงแล้ว

ด้าน พลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า เหตุเกิดประมาณ 18.06 น. ขณะเกิดเหตุ เป็นช่วงที่พนักงานกำลังจะเลิกงาน เมื่อมีเหตุเพลิงไหม้ ทำให้ทุกคนหนีออกมาได้ ซึ่งมีการส่งรถน้ำประมาณ 30 คัน และเจ้าหน้าที่ 130 คน ช่วยดับเพลิง

จากการตรวจสอบโรงงานที่เกิดเหตุ เป็นโรงงานผลิตน้ำหอม ยาสระผม และเจล ในพื้นที่มีโรงงานสุ่มเสี่ยง 12 โรง และด้านหน้าโรงงาน มีถังแอลกอฮอล์ 200 ลิตร เจ้าหน้าที่ฉีดน้ำเลี้ยงไว้ เพื่อไม่ให้เกิดไฟลุกลาม

สำหรับโครงสร้างตัวอาคารด้านบน ยังอยู่ในสภาพดี แต่ภายในอาคาร มีความเสียหาย ซึ่งขณะนี้ ภาพรวมคือปลอดภัยแล้ว แต่จะมีการจัดเจ้าหน้าที่ เฝ้าระวังอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง เพราะเกรงว่าจะปะทุซ้ำอีก เหมือนเหตุที่จังหวัดสมุทรปราการ โดยวันนี้ (7 ก.ค.) เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จะเข้าตรวจสอบหาสาเหตุต้นเพลิงอีกครั้ง

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/iuwFdJVndgo