อ่างทอง - โจรอาละวาดหนัก ขโมยไม่เว้นแม้กระทั่งโอ่งที่ชาวบ้านไว้ใส่น้ำใช้ โดยพบคนร้ายตระเวนขโมย ทั้งที่วัด และของชาวบ้าน พบก่อเหตุวันเดียว 2 รายซ้อน

ภาพที่เกิดขึ้นภายในวัดกลางราชครูธาราม ตำบลหัวตะพาน อำเภอ จังหวัดอ่างทอง ได้จับภาพคนร้ายเป็นชาย 2 คน ขี่มอเตอร์ไซด์ สีฟ้า ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน และยี่ห้อ เข้ามาเมื่อเวลาประมาณตี 1 ของวันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา แล้วได้จอดรถบริเวณข้างโบสถ์ จากนั้นคนซ้อนท้ายเดินลงจากรถไปแบกโอ่งน้ำเก่าแก่ ที่ตั้งอยู่บริเวณหน้ากุฏิ แล้วขึ้นซ้อนท้ายรถหายออกไป

จากการสอบถาม พระเอกลักษณ์ พระลูกวัด เล่าให้ฟังว่า ที่วัดมีโอ่งน้ำเก่าแก่หลายใบ ที่ใช้ใส่น้ำไว้ใช้อยู่บนศาลาการเปรียญ ส่วนใบที่หายทางวัดได้ตั้งวางไว้นานแล้ว และมีผ้าใบคลุมอยู่ คนร้ายได้นำผ้าใบออก แล้วแบกโอ่งน้ำขึ้นซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซด์หนีไป เบื้องต้นได้แจ้งความไว้ที่ สภ.วิเศษชัยชาญ แล้ว

ซึ่งหลังเกิดเหตุที่วัด ผู้สื่อข่าว ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีคนร้ายมาขโมยโอ่ง ที่บริเวณตลาดศาลเจ้าโรงทอง อำเภอวิเศษชัยชาญ ซึ่งได้ก่อเหตุถึง 2 รายซ้อน ในวันเดียวกัน

โดยรายแรก เกิดขึ้นกับ นายภัทรวุฒิ ตันติรุ่งเรือง อายุ 46 ปี เล่าให้ฟังว่า เกิดเหตุเมื่อวันที่ 3 ก.ค. ที่ผ่านมา โอ่งมังกร อายุประมาณ 40-50 ปี ที่ตั้งอยู่บริเวณร้านได้หายไป ซึ่งปกติตนเองจะมาเปิดร้านขายอาหาร ช่วงเช้ามืดทุกๆ วัน โดยวันเกิดเหตุสังเกตว่า หน้าร้านมีน้ำขังเต็มไปหมด เมื่อตรวจสอบพบว่า โอ่งมังกรซึ่งตั้งอยู่ 3 ใบ ได้หายไป 1 ใบ โดยคนร้ายได้เทน้ำทิ้ง และยกโอ่งไป

สำหรับโอ่งที่หาย เป็นโอ่งมังกรเก่าที่ใช้มาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ คาดคนร้ายต้องรู้ถึงมูลค่า จึงเลือกใบที่เป็นของเก่า ถ้าเป็นนักสะสม จะอยู่ที่ราคา 3,000-4,000 บาท ตนเองจึงได้ขอดูกล้องวงจรปิดพื้นที่ใกล้เคียง จึงพบรถต้องสงสัย เป็นรถกระบะตอนเดียว ซึ่งด้านหลังบรรทุกโอ่ง ตนจึงนำหลักฐานไปแจ้งความไว้ที่ สภ.วิเศษชัยชาญ

ส่วนโอ่งที่เหลืออีก 2 ใบ ตนได้นำโซ่มาคล้องพร้อมกุญแจล็อค และเทปูนยึดที่ฐานโอ่ง เพราะกลัวว่า คนร้ายจะย้อนกลับมาขโมยอีก ซึ่งตนพบว่าในวันคืนเดียวกัน คนร้ายยังไปก่อเหตุใกล้กับร้านของตน แต่ไม่สามารถนำโอ่งไปได้ เพราะมีคนมาพบเห็นก่อน

ด้าน นายบุญเทือง แก้วเกิด อายุ 55 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตนเองพักอาศัยอยู่บ้านข้างๆ ของเจ้าของโอ่ง ในวันเกิดเหตุ ตอนประมาณ 4 ทุ่ม เห็นคนร้ายกำลังเทน้ำในโอ่งออก ระหว่างนั้นคนร้ายหันมาเห็นตนก็แบกโอ่งวิ่งหนี ขึ้นรถมอเตอร์ไซด์ที่มีคนร้ายอีก 1 คน ติดเครื่องรออยู่ ตนจึงเดินตามไป พอคนร้ายหันมาเห็นว่า ตนเดินตามไปก็เลยทุบโอ่งทิ้ง แล้วขี่มอเตอร์ไซด์หนีไป

หลังเกิดเหตุ นายบุญเทือง ได้แจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ เพราะเจ้าของโอ่งไม่อยู่บ้าน ขณะที่ ผู้กับการ สภ.วิเศษชัยชาญ ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบ ทั้งจากพยานบุคคล และจากกล้องวงจรปิด เพื่อหาเบาะแสคนร้าย ซึ่งคาดทำเป็นขบวนการ ตามใบสั่งกลุ่มนักสะสมวัตถุโบราณ

ด้านเจ้าของร้านรับซื้อขายวัตถุโบราณ กล่าวว่า จากที่เห็นในข่าว คาดว่า โอ่งที่คนร้ายขโมยไป เป็นโอ่งจากราชบุรี ซึ่งมีราคาเพียงหลักร้อย โดยระยะนี้ยังไม่มีใครนำมาขาย เพราะไม่ได้ราคา ส่วนโอ่งที่มีราคาจะมาจากประเทศจีน จะมีราคาหลัก 1 หมื่นบาท และอยากฝากให้กลุ่มมิจฉาชีพอย่าได้ขโมยโอ่ง เพราะไม่มีราคาปล่อยให้ชาวบ้านเอาไว้ใช้เก็บน้ำดีกว่า