ชาวบ้านที่อำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรี ร้องเรียนเร่งด่วนไปที่ ป.ป.ท.เขต 1 หลังถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้หน่วยหนึ่ง ขู่จะเข้าตรวจยึด-ดำเนินคดี โดยอ้างว่าชาวบ้านบุกรุกแผ้วถางป่า ทั้งที่ชาวบ้านครอบครัวนี้ฐานะยากจน อาศัยทำกินภายใต้มติ ครม.สืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ป.ป.ท.จึงทำทีเป็นชาวบ้าน แฝงตัวเข้าไปถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน และพบว่าเจ้าหน้าที่ป่าไม้กลุ่มนี้ จงใจใช้อำนาจข่มขู่กลั่นแกล้งชาวบ้าน

โดย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. เขต 1 ได้บันทึกคลิปวีดีโอไว้ขณะแฝงตัวเข้าไปสืบหาข้อเท็จจริง กรณีชาวบ้านผู้ยากไร้ อาศัยทำกินในเขตป่าตามมติครม. แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่กลุ่มนี้ อ้างกฏหมายเข้าตรวจยึด-ดำเนินคดี

ชาวบ้านถูกควบคุมตัวและลงลายมือในบันทึก ทันทีที่ถึงโรงพัก นายธนวัตร สนิทศักดิ์ดี ผู้อำนวยการ ป.ป.ท. เขต 1 ที่เฝ้าดูพฤติกรรมตั้งแต่ต้น แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น วันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา

ข่าว 3 มิติ ได้พบกับคุณยายสำเภาวัย 84 ปี กับป้าศรีไพร ในวัย 63 ทั้ง 2 คน ยืนยันครอบครัวอยู่กันตามวิถีมาตั้งแต่รุ่นพ่อ รัฐผ่อนปรนให้ทำกินตามมติครม.เพียง 4 ไร่

หลักฐานภาพถ่ายทางอากาศ ย้อนหลังกลับไปในอดีต จะเห็นร่องรอยทำกินปรากฏเรื่อยมาตั้งแต่ปี 2499 อยู่ร่วมกับอุทยานฯ เรื่อยมา แต่ช่วงหลังพบว่าพื้นที่ใกล้เคียงกลายเป็นโฉนด มีเศรษฐีกว้านซื้อเอาไปทำฮวงซุ้ย เพราะทำเลดี หลังติดเขา หน้าติดน้ำ แต่พวกเธอก็ก้มหน้าทำมาหากินกันต่อไป กระทั่งเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มีคนกลุ่มหนึ่ง อ้างเป็นเจ้าของที่แปลงนี้ เกิดเป็นกรณีพิพาท พวกเธอร้อนใจจึงไปร้องตำรวจกับศูนย์ดำรงค์ธรรม แต่ไม่มีความคืบหน้า

และวันที่ทุกคนไม่คาดคิดก็มาถึง เมื่อเจ้าหน้าที่กลุ่มใหญ่นำกำลังเข้ามาที่บ้าน ยึดที่ทำกินและส่งตัวไปโรงพัก แม้ชาวบ้านและผู้นำจะมาช่วยเป็นพยาน แต่ก็ไม่ได้มีการนำสืบ หรือหาข้อเท็จจริงก่อนจับชาวบ้าน

ผอ.ป.ป.ท.เขต 1 ใช้ตำแหน่งช่วยประกันตัวชาวบ้าน ในขณะที่คู่กรณี มีคนเอาหลักทรัพย์มารอประกันตัวให้ทันที ป.ป.ท.จึงตั้งข้อสงสัยว่า การยึดที่ดินและจับกุมชาวบ้านครั้งนี้ อาจมีขบวนการหรือมีคนบางกลุ่ม อยู่เบื้องหลังหรือไม่ โดยเฉพาะคู่กรณีที่เข้ามาแอบอ้าง เข้ามาในช่วงที่กระแสการซื้อขายที่ดินติดเขา ให้ราคาสูงและที่ผ่านมามีคนบางกลุ่มอ้างว่า สามารถช่วยให้ที่ป่าแปลงนี้ กลายเป็นโฉนดได้

ป.ป.ท.ได้รายงานพฤติกรรมไปที่ต้นสังกัดของหัวหน้าหน่วยป่าไม้รายนี้ รวบรวมพยานหลักฐานเสนอให้ ป.ป.ช.เตรียมชี้มูลความผิด ทั้งวินัยและอาญา โทษสูงสุด คือไล่ออก และจำคุกตลอดชีวิต