คนไทยงง! 'อนุทิน' รับเอกสารหลุดจริง ปมค้านฉีดไฟเซอร์ สวนทาง 'หมอโอภาส' บอกเป็นของปลอม

สังคม

คนไทยงง! 'อนุทิน' รับเอกสารหลุดจริง ปมค้านฉีดไฟเซอร์ สวนทาง 'หมอโอภาส' บอกเป็นของปลอม

โดย pattraporn_a

5 ก.ค. 2564

81 views

ประเด็นวัคซีนไฟเซอร์ที่มีเอกสารจากที่ประชุมคณะกรรมการวิชาการ 3 ฝ่าย หลุดออกมา โดยมีเนื้อหาบางช่วงระบุในทำนองว่า หากเอาวัคซีนไฟเซอร์ มาฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์เป็นเข็มสาม จะถือเป็นการยอมรับว่า วัคซีนซิโนแวค ไม่มีผลในการป้องกัน


วันนี้ คำชี้แจงจากฝั่งรัฐกลับไม่ตรงกัน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า เป็นเอกสารจริง แต่อธิบดีกรมควบคุมโรค กลับระบุว่า เป็นเอกสารไม่จริง กรณีเอกสารที่เชื่อว่าน่าจะเป็นบันทึกการประชุมของคณะกรรมการวิชาการควบคุมโรคติดต่อหลุดสู่โลกออนไลน์


โดยมีความเห็นหนึ่งจากคณะกรรมการที่ระบุคัดค้านการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ เป็นเข็มที่ 3 ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ เพราะถือเป็นการยอมรับว่าวัคซีนซิโนแวคไร้ประสิทธิภาพ จนทำให้ไม่สามารถแก้ตัวได้ ซึ่งทั้งคู่ให้ความเห็นตรงกันคือ เป็นเพียงความเห็นทางวิชาการของคณะกรรมการบางท่าน แต่ไม่ใช่ข้อสรุปจากที่ประชุม


ส่วนที่เห็นต่างกัน คือ นายอนุทินยอมรับกว่าเป็นเอกสารที่หลุดจากที่ประชุมจริง ส่วนอธิบดีกรมควบคุมโรค ยืนยันว่า เป็นเอกสารปลอม โดยให้ระบุที่มาของเอกสารเพื่อยืนยัน


อย่างไรก็ตามมีการประชุมของคณะกรรมการจริง ตามวันวลาและสถานที่ที่ระบุไว้ในเอกสารความเห็นการประชุม คือวันที่ 30 มิถุนายน 2564 เวลา 13.30-16.30 น. ที่กรมควบคุมโรค


จากประเด็นนี้ทำให้โลกออนไลน์ต่างออกมาเรียกร้องผ่าน #ฉีดไฟเซอร์ให้บุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งกรณีนี้ได้รับความเห็นสนับสนุนจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลายคน เพื่อลดความเสี่ยงให้กับบุคลากรด่านหน้า หลังที่ผ่านมามีบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อมากกว่า 6 ร้อยคน และเสียชีวิตไปอย่างน้อย 4 คน แม้จะได้รับซิโนแวคครบ 2 โดสแล้วก็ตาม โดยมีงานวิจัยหลายชิ้นที่ยืนยันได้ว่าซิโนแวคมีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสกลายพันธุ์ต่ำ ถึง ไม่สามารถป้องกันได้ ซึ่งทุกคนระบุให้ฉีดวัคซีนชนิด mrna เป็นเข็มที่ 3 หลังพบว่ากระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดี


ล่าสุด นายเเพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงว่ามีนโยบายจัดวัคซีนให้บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันให้สูงขึ้น โดยเฉพาะไวรัสที่กลายพันธุ์ เช่น เดลต้า ในลักษณะ Booster dose หรือกระตุ้นภูมิเข็ม3 เพื่อรักษาระบบสุขภาพของประเทศ ให้ดูแลประชาชนได้ตามข้อมูลทางวิชาการ แต่อยู่ระหว่างการหารือว่าจะเป็นวัคซีนตัวใด


เบื้องต้นกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พบไวรัสสายพันธุ์เดลตา หรือ (อินเดีย) กระจายกว่า 41 จังหวัด โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานคร ที่เดลตาเริ่มเข้าแทนที่สายพันธุ์แอลฟ่า หรือ สายพันธุ์อังกฤษแล้ว คิดเป็นร้อยละ 52


ปัจจุบันไทยได้ทำสัญญาจองวัคซีนจากไฟเซอร์แล้ว 20 ล้านโดส ขณะนี้เหลือเพียงการเซ็นสัญญาจัดซื้อวัคซีน ที่จะรอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาร่างสัญญาในวันพรุ่งนี้ และคาดว่าจะจัดส่งล็อตแรกได้ในไตรมาสที่ 4 ในปีนี้


ขณะที่ไฟเซอร์จำนวน 1.5 ล้านโดสแรก ที่สหรัฐบริจาคให้ไทย พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมมั่นคงแห่งชาติ ระบุจะนำเข้ามาภายในปีนี้ แต่วัคซีนในส่วนนี้จะต้องแบ่งส่วนหนึ่งให้กับชาวต่างประเทศที่อยู่ในไทย อาจเป็นสัดส่วนร้อยละ 20 ส่วนที่เหลือจึงจะใช้ประโยชน์กับคนในประเทศได้ ส่วนจะนำมาใช้ฉีดให้กับบุคลากรด่านหน้าเป็นเข็มที่ 3 หรือไม่ ขึ้นอยู่กับนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขเป็นหลัก

คุณอาจสนใจ

Related News