ฉะเชิงเทรา - เหตุเกิดเมื่อวานนี้ 4 ก.ค. ตอนประมาณ 3 ทุ่ม ที่บริเวณภายในพื้นที่ ต.คลองอุดมชลจร อ.เมือง ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เข้าตรวจสอบกรณีกลุ่มแรงงานชาวกัมพูชา 5 คน บุกเข้าไปทุบทำลายข้าวของพังเสียหาย โดยเฉพาะรถมอเตอร์ไซด์ของเจ้าของบ้าน ถูกไม้ทุบพังยับเยิน ส่วนเจ้าของบ้าน ทราบชื่อเล่นว่า นายแป๊ะ อายุ 36 ปี ได้วิ่งหนีออกไปทางหลังบ้าน เพราะกลัวจะไม่ปลอดภัย

จากการสอบถาม หนึ่งในคนงานที่ก่อเหตุ ซึ่งยังอยู่ในอาการมึนเมา เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนกำลังเดินออกไปซื้อสุราด้านนอกโรงงานคนเดียว มาเจอ นายแป๊ะ นั่งดื่มสุราอยู่หน้าบ้าน ซึ่งติดกับพื้นที่โรงงาน ปกตินายแป๊ะชอบพูดถากถางดูหมิ่นพวกตนอยู่แล้ว แต่ตนไม่สนใจ พอซื้อของเสร็จกำลังเดินเข้าโรงงาน นายแป๊ะ เดินปรี่เข้ามาหาเรื่อง และชกปากตนก่อน ตนจึงกลับไปตามพรรคพวกในโรงงาน ออกมาหานายแป๊ะถึงที่บ้าน พอนายแป๊ะเห็นว่า ฝั่งพวกตนมีมากกว่า ก็รีบวิ่งหนีออกไปทันที

ขณะที่ ตำรวจกำลังตรวจสอบ และพูดคุยกับกลุ่มแรงงาน ว่าบุกไปทำลายข้าวของคนอื่นในบ้าน เป็นเรื่องไม่สมควร หากถูกทำร้ายควรไปแจ้งตำรวจ ทำให้กลุ่มแรงงานชาวต่างด้าวที่อยู่ด้านในโรงงาน และพยายามจะปีนรั้วกำแพงออกมา ทาง รปภ.ของโรงงานต้องมาปิดประตูเอาไว้ ทำให้กลุ่มแรงงานเหล่านี้ ยิ่งไม่พอใจ ตะโกนขับไล่ ตำรวจ และเมื่อตำรวจเห็นว่า เหตุการณ์จะบานปลาย จึงถอนกำลังออกมาก่อน

ส่วนผู้เสียหาย เมื่อเช้านี้ 5 ก.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านที่เกิดเหตุ พบกับ นายแป๊ะ หรือ นายธงชัย ศรีโกศักดิ์ อายุ 36 ปี เล่าให้ฟังว่า ตนเองไม่เคยมีเรื่องกับแรงงานกลุ่มนี้มาก่อน เพิ่งมีเรื่องกันเมื่อคืน ได้ชกต่อยกันบริเวณหน้าบ้าน ก่อนแรงงานกัมพูชาจะยกพวกมาถล่มบ้านตน ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้ไปแจ้งความแต่อย่างใด รอโรงงานติดต่อกลับมารับผิดชอบค่าเสียหาย

ขณะที่ ฝ่ายบุคคลโรงงาน กล่าวว่า ได้รับข้อมูลเรื่องทะเลาะวิวาท ระหว่างกลุ่มคนงานชาวกัมพูชา กับ นายแป๊ะ ซึ่งเป็นคนไทยแล้ว เบื้องต้นทางโรงงานจะเข้าไปเยียวยา ค่าเสียหายซ่อมแซมบ้านให้ทั้งหมด ส่วนการลงโทษแรงงานต่างด้าวนั้น ขอสอบสวนข้อเท็จจริงก่อน หากผิดก็จะดำเนินการตามกฏระเบียบของโรงงาน ส่วนทางคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจ บอกว่า ผู้เสียหายยังไม่ได้มาแจ้งความ จึงยังไม่ได้ดำเนินคดีกับใคร

ด้าน ชาวบ้านในละแวกนั้น บอกว่า นายแป๊ะมักจะทำตัวเป็นขาใหญ่ประจำซอย ชอบส่งเสียงดังโวยวาย เมื่อเมาแล้วชอบหาเรื่องแรงงานที่เดินผ่านไปมา ไม่ค่อยมีใครกล้าเข้าไปยุ่ง แต่ก่อนบ้านนายแป๊ะอยู่กันหลายคน แต่ทนพฤติกรรมไม่ไหว ญาติๆ พี่น้องจึงย้ายออกมาอยู่ด้านนอกกันหมด จึงเหลือนายแป๊ะอยู่บ้านเพียงคนเดียว