สุดหลอน สองผัวเมียเห็นนักศึกษาสาว เดินหายเข้าในป่าหญ้าริมถนนบางนาตราด ตำรวจและมูลนิธิช่วยกันลุยป่าค้นหาอยู่นานกว่า 3 ชั่วโมง ไม่พบ ขณะที่ชาวบ้านออกมาเผยเคยมีคนเจอดีมาแล้วจนอยู่ไม่ได้

เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 3 กรกฎาคม 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางพลี สมุทรปราการ ได้รับแจ้งว่ามีพบเห็นหญิงสาวแต่งกายคล้ายนักศึกษาอายุประมาณ 20 ปี ผิวขาว ใส่แว่นตา เดินเหม่อลอยหายเข้าไปในป่ารกร้าง ริมถนนบางนาตราด ขาออก หลักกิโลเมตรที่ 16 ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิป่อเต๊กตึ้ง และเจ้าหน้าที่ดับเพลิง อบต.บางโฉลง กว่า 30 นาย เดินทางเข้าตรวจสอบ

ที่บริเวณริมถนนข้างป่าหญ้า ได้พบกับสองสามีภรรยาที่เห็นเหตุการณ์ยืนรอให้การเจ้าหน้าที่อยู่ โดยนายพลากร บุตรทะยัก อายุ 23 ปี ได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ตนและภรรยาขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมายังจุดนี้ ได้สังเกตเห็นหญิงสาววัยรุ่น อายุประมาณ 20 ปี แต่งกายด้วยชุดกระโปรงจีบสีดำยาวเลยเข่า เสื้อสีขาว คล้ายกับนักศึกษา ผิวขาว สวมแว่นตา ที่แขนมีผ้าถุงพาดอยู่เดินเลี้ยวเข้าไปในป่ารกร้างข้างทาง แถมมีอาการเหม่อลอย

ตนจึงจอดรถและถามว่า มีอะไรหรือต้องการความช่วยเหลือหรือเปล่า แต่หญิงสาวคนดังกล่าว ได้หันกลับมาสบตาแต่ไม่พูดอะไรก่อนจะหันกลับและเดินเข้ามาในป่าซึ่งเป็นป่ารกร้างก่อนที่จะหายไป ตนเกรงว่าจะเกิดเหตุร้ายจึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

หลังทราบข้อมูลทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยกู้ภัย และเจ้าหน้าที่ดับเพลิง อบต.บางโฉลง กว่า 30 นาย ได้เดินลุยป่าเข้าไปค้นหาอยู่นาน แต่ไม่มีวี่แววของหญิงสาวคนดังกล่าว ที่บริเวณกลางป่าหญ้าดังกล่าวที่บริเวณโคนต้นมะขามเทศขนาดใหญ่ ได้พบเพิงพักของคนเร่ร่อนสภาพเก่า ซึ่งไม่มีใครพักอาศัยอยู่แล้ว 1 หลัง บนพื้นภายในเพิงดังกล่าว พบกระโปรงสีดำ และเสื้อสีขาว สภาพเก่าลักษณะคล้ายชุดนักศึกษาวางอยู่ เจ้าหน้าที่ปูพรหมค้นหากว่า 3 ชั่วโมง แต่ก็ไม่พบ มีเพียงบ้านของ 2 ตายาย ที่พักอาศัยอยู่ด้านหลังของป่าหญ้าดังกล่าวเพียงหลังเดียวเท่านั้น และจากการสอบถามสองตายายก็บอกว่าไม่เห็นใครเข้ามาในป่านี้แต่อย่างใด

ป้าติ๋ม อายุ 64 ปี ชาวบ้านที่พักอาศัยในละแวกดังกล่าว เล่าว่า บริเวณเพิงพักเก่าใต้ต้นมะขามเทศกลางป่าหญ้า ที่เจ้าหน้าที่เข้าไปพบนั้น ก่อนหน้านี้เคยมีคนเร่ร่อนมาพักอาศัยอยู่ แต่ก็อยู่ไม่ได้ อ้างว่าเห็นวิญญาณนางไม้มาหลอกหลอน จนต้องหนีออกมา หลังจากนั้นก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปอีกเลย